รีวิวไม้กอล์ฟ : TaylorMade Hi-Toe RAW

อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ทีมงาน HotGolf ได้ทดสอบในครั้งนี้คือ เวดจ์รุ่นใหม่ของทาง TaylorMade รุ่น Hi-Toe Raw

Hi-Toe Raw ไม่ใช่รุ่นใหม่เอี่ยมเลยเสียทีเดียว เพราะนี่คือการต่อยอดดีไซน์เวดจ์รุ่น Hi-Toe ที่ TaylorMade เปิดตัวมาก่อนหน้านี้ โดยเป็นเวดจ์ที่ถูกพัฒนาดีไซน์ขึ้นใหม่ ให้มีพื้นที่หน้าเวดจ์ฝั่งปลายสูงขึ้น ทำให้นักกอล์ฟพลิกแพลงเล่นเกมลูกสั้นได้หลากหลายขึ้น ขณะเดียวกันก็เอื้อให้ขยับจุดศูนย์ถ่วงได้สูงขึ้น ช่วยให้ลูกลอยต่ำลง และสร้างสปินได้มากขึ้น

จากเวดจ์ Hi-Toe ในรุ่นใหม่นี้ Hi-Toe Raw ได้ถูกอัพเกรดประสิทธิภาพให้สูงยิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยี RAW Face ซึ่งมาพร้อมกับร่อง ZTP RAW Groove Design ด้วยหน้าเวดจ์ที่เป็นสนิม และตัวร่องที่ถูกออกแบบให้คมขึ้น, แคบขึ้น และลึกขึ้น ทำให้เป็นหน้าเวดจที่สามารถสร้างแรงเสียดทานขณะปะทะลูกกอล์ฟได้สูงขึ้น เพื่ออัตราสปินลูก และให้ความแน่นอนมากขึ้น แม้ในสภาพอากาศที่ชื้นก็ตาม

อย่างยิ่งกับรุ่นนี้ที่มีการเพิ่มลายยิงเลเซอร์ Laser Etched Pattern เข้ามาเสริมช่วยด้วย ทำให้ยิ่งการันตีว่า Hi-Toe Raw จะเป็นเวดจ์ที่สร้างสปินได้สูงสุดอย่างแน่นอน

นอกจากการต่อยอดดีไซน์แบบ Hi-Toe แล้ว ในรุ่นใหม่นี้ยังมาพร้อมหน้าเวดจ์ Full Face Scoring Lines ร่องหน้าไม้ที่ถูกออกแบบให้เต็มพื้นผิวสัมผัส เพื่อความมั่นใจในการเข้าปะทะลูกควบคุมทิศทาง และอัตราสปินได้อย่างแม่นยำ โดยจะมีเฉพาะในองศาหน้าไม้ 56, 58, 60 และ 62 องศา เพื่อเปิดโอกาสให้นักกอล์ฟใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการเล่นลูกข้างกรีนอย่างเต็มที่

อีกหนึ่งจุดที่เวดจ์ดีๆ จะขาดไปไม่ได้เลย นั่นคือ เรื่องการเจียรฐาน โดย TaylorMade Hi-Toe Raw ยังคงใช้รูปแบบการเจียรฐาน Milled Grind เป็นลายขวางที่ฐานเวดจ์ ช่วยลดแรงเสียดทาน ทำให้ตีผ่านได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังการผลิตด้วยขั้นตอนการมิลล์ ซึ่งให้มาตรฐานความแน่นอนสูงมาก เมื่อเทียบกับการเจียรฐานที่ใช้ช่างที่เป็นคนปกติ

พร้อมด้วยตัวเลือก Bounce หลากหลายทั้ง Low bounce (7°) สำหรับสวิงแบบกวาด หรือการเล่นในพื้นที่แข็ง, Standard (9°-10°) สำหรับการเล่นที่ค่อนข้างหลากหลาย และไฮไลท์คือ Bigfoot (15°) สำหรับนักกอล์ฟที่สวิงชัน ตีแล้วไดวอทเยอะ รวมถึงการเล่นบนพื้นที่ค่อนข้างนุ่ม

เวดจ์ TaylorMade Hi-Toe Raw มาพร้อมการทำสีใบเวดจ์แบบ New Aged Copper Finish สีสนิมทองแดงใหม่สุดคลาสสิค ที่เมื่อทำปฏิกิริยากับอากาศเมื่อใช้งานได้ระยะหนึ่ง สีจะดูเข้มดุดันยิ่งขึ้น พร้อมเสียบก้าน Dynamic Gold S200 ที่ให้ความนุ่มนวล และราบรื่นตลอดการสวิง

TaylorMade Hi-Toe Raw มีราคาขายที่ชิ้นละ 7,900 บาท

นักกอล์ฟที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมของเวดจ์ สามารถสอบถามรายละเอียดผลิตภัณฑ์ได้โดยตรงที่บริษัท ซีซีเค กรุ๊ป จำกัดโทร. 02 019 9743

Tested by อรรถพล โล่สุวรรณ หัวหน้ากองบรรณาธิการ HotGolf
ก่อนหน้านี้ทีมงาน HotGolf เราเคยมีโอกาสได้ทดสอบเวดจ์ TaylorMade Milled Grind 2 มาแล้ว แต่กับรุ่น Hi-Toe RAW ต้องบอกว่าต่างกันชัดเจน ต่างกันตั้งแต่รูปลักษณ์ที่ใบใหญ่กว่า เหมาะกับสายฟล็อปสายปั่นลูกอย่างแท้จริง 555 ใครที่ชอบพลิกแพลงลูกสั้นน่าจะชอบครับกับเวดจ์ที่มีพื้นที่ให้เล่นเพิ่มแบบนี้
จากที่ทดสอบฟีลลิ่งถือว่า ค่อนข้างใกล้เคียง Milled Grind 2 ครับ ฟีลลิ่งในการตีผ่านสมูธนุ่มนวลมาก แต่ที่ต่างคือเวลาเล่นช็อตฟล็อปจะรู้สึกว่าหน้าเวดจ์ทำงานได้เต็มที่กว่า ทำงานได้เต็มที่ทั้งหน้าเวดจ์ เต็มที่ทั้งร่องที่ถูกใส่เพิ่มเข้ามา อย่างที่ผมเรียนข้างต้นว่า นักกอล์ฟที่ชอบเล่นพลิกแพลงช็อตข้างกรีนน่าจะถูกใจมากกับเวดจ์ตัวนี้
รวมถึงพอเราเล่นช็อตแบบนี้ ทำให้สปินที่ได้ค่อนข้างจัดกว่าเวดจ์แบบปกติ จากที่ทดสอบแม้บางช็อตมีท็อปๆ บ้าง ลูกก็ยังหยุดให้ดีมาก ซึ่งสำคัญนะครับกับการเก็บลูกไว้บนกรีนเพื่อพัตต์ได้ ทั้งที่เป็นช็อตที่เล่นผิดพลาดแบบนี้ อีกทั้งยังช่วยให้เรากล้าเล่นลูกสั้นโดยเล็งไปที่เป้าหมายมากขึ้น เพราะเชื่อว่าด้วยเวดจ์ตัวนี้จะช่วยหยุดลูกให้เราได้แน่ๆ
ใครชอบเล่นลูกสั้น แนะนำเลยครับลองหาเวดจ์ TaylorMade Hi-Toe RAW แล้วเกมข้างกรีนของคุณจะมีอะไรให้เล่นเยอะเลยครับ

**สั่งซื้อสินค้ากอล์ฟออนไลน์จากทุกแบรนด์ชั้นนำ ผ่าน HotGolf Shop สอบถามสินค้าได้ที่คลิก https://line.me/R/ti/p/%40hotgolf