เมื่อกอล์ฟกลายเป็นประเภททีม..ความบาดหมางก็ตามมา

ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ชอบ LIV Golf แต่ก็ยากที่จะปฏิเสธว่านี่คือมิติใหม่ของวงการกอล์ฟอย่างแท้จริง กับการแข่งขันรูปแบบใหม่ ที่เล่นแค่ 54 หลุม รวมถึงการเล่นรูปแบบทีม

แม้ LIV Golf จะโฟกัสไปที่การแข่งขันประเภทบุคคลเป็นหลัก แต่การแข่งขันประเภททีม หรือ “แฟรนไชส์” ก็เป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่พวกเขาพยายามนำมาใช้ในการดึงดูดแฟนๆ พวกเขามีการตั้งชื่อทีม และออกแบบโลโก้กันเป็นเรื่องเป็นราว แถมในแต่ละแมตช์ ก็จะมีเงินรางวัลสำหรับประเภททีมแยกออกมาเฉพาะ 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มเติมด้วย

ตอนแรกในปี 2022 ผู้เล่นแต่ละทีมจะสลับสับเปลี่ยนกันไปมาในแต่ละแมตช์ แต่ปี 2023 มีการปรับเปลี่ยนใหม่ แต่ละทีมจะมีกัปตันทีม และผู้เล่นอีก 3 คนที่จะเป็นทีมเดียวกันไปตลอดทั้งฤดูกาล โดยแต่ละทีมก็จะมีสตอรี่ที่แตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นผู้เล่นชาติเดียวกันทั้งหมด อย่างทีม 4 Aces GC ซึ่งเป็นอเมริกันล้วน นำมาโดยกัปตันทีม ดัสติน จอห์นสัน และลูกทีม แพทริค รีด, แพ็ท เปเรซ และ ปีเตอร์ ยูห์ไลน์

หรืออย่างทีม Ripper GC ของกัปตันทีม คาเมรอน สมิธ ก็ล้วนแต่เป็นผู้เล่นชาวออสเตรเลียนเหมือนกันกับเขาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น แม็ตต์ โจนส์, มาร์ค ลีชแมน และ เจไดอาห์ มอร์แกน

ที่แปลกกว่าเพื่อนหน่อยคือ Majesticks GC เพราะว่าทีมนี้มีกัปตันทีมถึง 3 คน ที่ล้วนแต่ตัวเป็นตัวเก๋ามากประสบการณ์ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น เอียน โพลเตอร์, ลี เวสต์วูด และ เฮนริค สเตนสัน โดยมีลูกทีมคนเดียวคือ แซม ฮอร์สฟิลด์

การแข่งขันประเภททีมจะมีไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ LIV Golf Jeddah ที่ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งแข่งแบบทีมอย่างเดียว ไม่มีประเภทบุคคล โดยรายการนี้เป็นรายการปิดท้ายฤดูกาล และจะชิงเงินรางวัลรวมสูงถึง 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เยอะกว่าทุกแมตช์

แม้อย่างที่กล้าวข้างต้นว่า ส่วนใหญ่การแข่งขันจะโฟกัสกันที่ประเภทบุคคลเป็นหลัก แต่ก็ไม่ได้ทิ้งประเภททีมไปเลย เพราะยังมีแมตช์ใหญ่รออยู่ในช่วงปลายปี แถมจริงจังถึงขั้นที่กัปตัน บรูคส์ เคปก้า ของทีม Smash GC ออกมาตำหนิลูกทีม แม็ทธิว โวลฟฟ์ ผ่านสื่อกันเลยทีเดียว!

Smash GC ของ เคปก้า เป็นอีกหนึ่งทีมที่ประกอบด้วยผู้เล่นสัญชาติอเมริกันล้วนๆ โดยนอกจาก เคปก้า และ โวลฟฟ์ แล้ว อีกสองผู้เล่นคือ เจสัน โคแคร็ค และ เชส เคปก้า น้องชายของ บรูคส์ เอง

สำหรับ โวลฟฟ์ เขาเคยเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ถูกจับตามองอย่างมาก ด้วยวงสวิงอันเป็นเอกลักษณ์ และการประสบความสำเร็จค่อนข้างเร็ว เขาเทิร์นโปรตอนเดือนมิ.ย. 2019 พอเดือนต่อมาเขาก็คว้าแชมป์พีจีเอทัวร์แรกในชีวิตได้เลย ถือว่าได้แชมป์เร็วมาก

หลังจากได้แชมป์แรกเร็ว หลายคนคิดว่า โวลฟฟ์ น่าจะได้อีกหลายแชมป์ตามมาแน่ๆ อย่างไรก็ตาม เรื่องกลับไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะหลังจากแชมป์แรก โวลฟฟ์ ก็กลับไม่เคยได้แชมป์อะไรอีกเลย

ยิ่งกับปีนี้ โวลฟฟ์ มีผลงานที่ตกลงอย่างเห็นได้ชัด LIV Golf นั้นแข่งกัน 48 คน แต่ใน 5 รายการหลังสุด โวลฟฟ์ กลับไม่สามารถเร่งผลงานเข้าไปติดท็อป 30 ได้เลยแม้แต่รายการเดียว แถมบางครั้งแสดงออกชัดเจนว่ามีปัญหาเรื่องสภาพจิตใจ เช่น ถอนตัวก่อนเล่นรอบสุดท้าย โดยไม่ได้ระบุอาการบาดเจ็บที่ชัดเจน หรือเคยเลิกเล่นดื้อๆ ในรอบคัดเลือกยูเอสโอเพ่น เพราะรู้ว่าตัวเองหมดโอกาสควอลิฟายผ่านแล้ว

เมื่อปี 2021 โวลฟฟ์ เคยประกาศหยุดเล่น 2 เดือน โดยยอมรับว่ามีปัญหาเรื่องสภาพจิตใจ ถึงขั้นเคยให้สัมภาษณ์กับบางสื่อว่า เขาอยากนอนอยู่บนเตียงเฉยๆ ไม่อยากอยู่ต่อหน้าผู้คน เพราะไม่อยากเล่นผิดพลาดต่อหน้าคนอื่นๆ

เคปก้า เป็นคนที่ชอบพูดตรงๆ อยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อรู้สึกว่าลูกทีมไม่พยายามเล่นอย่างเต็มที่ เขาย่อมไม่ปล่อยผ่านแน่นอน

“ผมรู้สึกว่าเมื่อคุณอยากเลิกเล่น คุณยอมแพ้ หรืออะไรก็ตาม นี่มันไม่ใช่การพยายามแข่งขัน ผมไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย คุณไม่ทำงานหนัก และมันส่งผลต่อกำลังใจของทีม เพราะคุณมีผู้เล่นคนหนึ่งที่ไม่ยอมทำหน้าที่ ผู้เล่นคนหนึ่งที่ไม่ยอมพยายาม คนที่เลิกเล่นเดินออกจากสนามไปเลย, หักไม้กอล์ฟ, ออกอาการท้อแท้ หรือมีภาษากายที่ย่ำแย่ เรื่องพวกนี้ส่งผลต่อทีมอย่างมาก”

“ผมหมดหวังกับเขาแล้ว เขาเป็นผู้เล่นที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์ แต่กลับทิ้งมันไปโดยเปล่าประโยชน์”

ขณะที่เมื่อตำหนิตรงๆ แบบนี้ โวลฟฟ์ ยอมรับว่ารู้สึกผิดหวัง และใจสลาย “ผมได้อ่านบทสัมภาษณ์ของ บรูคส์ เกี่ยวกับความผิดหวังที่มีต่อตัวผมแล้ว ตอนที่ผมเลือกทีมของเขา ผมรู้สึกจริงๆ เลยว่า นี่จะเป็นบ้านหลังใหม่สำหรับผม รวมถึงโอกาสที่จะได้เรียนรู้จากความสำเร็จจากผู้เล่นอย่าง บรูคส์”

“เหมือนกับทุกคนที่เคยผ่านการแข่งขันระดับสูงมาแล้ว ผมเองก็เช่นกัน ผมรู้สึกว่าผมทำให้ตัวเองตกต่ำ เช่นเดียวกับการทำให้บรรยากาศในทีมย่ำแย่”

“นี่เป็นปีที่ยากมากสำหรับผม ไม่ว่าทั้งในและนอกสนามกอล์ฟ ด้วยปัญหาสภาพจิตใจที่ผมมีใบรับรองแพทย์ด้วย ผมต้องจัดการกับเรื่องที่ยากลำบากนี้ทุกวัน และฤดูกาล 2023 ก็ไม่ใช่อย่างที่ผมอยากให้เป็นเลย แต่ผมรู้สึกว่าตัวเองจัดการชีวิตตัวเองได้ดีขึ้น เกมการเล่นของผมดีขึ้น ดังนั้นการได้ยินกัปตันทีมออกมาพูดว่าหมดหวังในตัวผม มันทำให้รู้สึกใจสลาย”

“มันไม่ใช่สิ่งที่ลูกทีมอยากฟังจากหัวหน้าทีม และผมคิดว่าแต่ละคนก็ต่างมีวิธีรับมือเรื่องนี้แตกต่างกัน แต่ผมตั้งใจจะก้าวต่อไปข้างหน้า และไม่ยอมแพ้กับตัวเอง ถึงแม้ผลงานในสนามอาจจะไม่มีอะไรที่บ่งชี้ในแง่บวกออกมา แต่ผมตั้งใจจะพยายามที่เอาชนะ รวมถึงเรื่องที่ใหญ่กว่าในชีวิตของผมด้วย”

“ผมเชื่อว่า บรูคส์ ต้องการสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อทีม ถึงแม้มันยากที่จะจินตนาการว่าความคิดเห็นของเขามีอะไรที่้เกี่ยวโยงกับเป้าหมายนี้ แต่ผมตั้งใจจะพูดเรื่องนี้เป็นครั้งสุดท้าย และสัปดาห์นี้ผมจะไปที่เซ็นจูเรียนคลับ เพื่อช่วยทีมเอาชนะให้ได้ ผมซาบซึ้งอย่างยิ่งกับการสนับสนุนจากทุกคน และการเคารพในความเป็นส่วนตัวของผม”

แล้วมารอดูกันต่อไปว่า โวลฟฟ์ จะกลับมาเป็นคนเดิมอย่างที่เขาเคยเป็นได้หรือไม่ รวมถึงจะสามารถทำให้กัปตันทีม เคปก้า เชื่อมั่นในตัวเขาได้อีกครั้งหรือไม่…

———————————

**สั่งซื้อสินค้ากอล์ฟออนไลน์จากทุกแบรนด์ชั้นนำ ผ่าน HotGolf Shop สอบถามสินค้าได้ที่คลิก https://line.me/R/ti/p/%40hotgolf

#HotGolf