Titleist เปิดตัวเหล็กตระกูล “718” ครั้งแรกกับโมเดล AP3
Titleist โดยบริษัท แอคูชเน็ท กอล์ฟ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวชุดเหล็กตระกูล 718 อย่างเป็นทางการ ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่การมาของโมเดล “AP3” เป็นครั้งแรก เพื่อเติมเต็มช่องว่างระหว่าง AP1 และ AP2 ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น พร้อมวางขายพร้อมกันทั่วโลกในวันที่ 29 กันยายนนี้
บริษัท แอคูชเน็ท กอล์ฟ (ประเทศไทย) จำกัด โดย Mr.Gene Saunders, Golf Club Product & Fitting Manager-Titleist South East Asia และ คุณวัชระ กาฬภักดี Titleist Product and Marketing Manager, Thailand จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวตระกูลชุดเหล็กใหม่ล่าสุดจาก Titleist ซีรี่ส์ “718” เผยโฉมให้สื่อมวลชนสัมผัสและร่วมทดสอบถึงประสิทธิภาพเป็นครั้งแรก ณ สนามกอล์ฟธนาซิตี้ เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา
Titleist ที่ครองตำแหน่งอันดับ 1 สถิติเป็นแบรนด์ที่มีชุดเหล็กถูกเลือกใช้จากผู้เล่นในทัวร์มากที่สุด นับตั้งแต่ปี 2005 เผยโฉมตระกูล 718 มาทั้งหมด 6 โมเดล ประกอบด้วย AP1, AP2, AP3, CB, MB และ T-MB โดยทั้ง 6 รุ่นแบ่งตามคอนเซ็ปต์ด้านประสิทธิภาพเป็น 2 รูปแบบคือ AP1, T-MB และ AP3 ที่ตีได้ไกล และ AP2, CB กับ MB ที่เน้นการคอนโทรลเหมาะสำหรับผู้เล่นมือดี
โมเดล 718 AP1 ยังคงมาพร้อมกับคุณสมบัติตีง่าย, ตีได้ไกล และชดเชยความผิดพลาดได้สูงสุด ในรุ่น 718 มีการดีไซน์แบบ Progressive เพื่อให้เหล็กแต่เบอร์ทำหน้าที่ได้ดีที่สุด ส่วนโมเดล 718 AP2 ยังคงเป็นโมเดลที่มีเทคโนโลยีสูงที่สุด มีการดีไซน์ที่ละเอียดอ่อนในเหล็กแต่ละเบอร์ เพื่อให้เหล็กมีแคเรกเตอร์ที่เหมาะสม ตัวใบเสริมด้วยวัสดุทังสเตนความหนาแน่นสูงขนาด 57.4 ทั้งบริเวณปลายและส้นของใบ เพื่อเพิ่ม MOI ให้ใบเหล็กนิ่ง และชดเชยความผิดพลาดได้สูงสุด
ขณะที่โมเดล 718 AP3 ที่มีการพัฒนาเพิ่มเข้ามาใส่ในซีรี่ส์เหล็กของ Titleist เป็นครั้งแรก โดยเป็นส่วนผสมที่ลงตัวและเติมเต็มช่องว่างของ AP1 กับ AP2 ด้วยคอนเซ็ปต์เน้นสร้างระยะทาง ชดเชยความผิดพลาดสูง ขณะที่เดียวก็ได้ฟีลลิ่งและการคอนโทรลเหมือนเช่นเหล็กใบขนาดคอมแพ็ค ตัวใบดีไซน์โครงสร้างแบบกลวง และมีโพรงด้านหลัง ใส่ตัวช่วยเป็นทังสเตนที่ส้นและปลายใบน้ำหนัก 84 กรัมเพื่อให้ชดเชยความผิดพลาดได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นอยู่ที่โครงสร้างหน้าเหล็กแบบตัว L เพื่อช่วยให้สร้างระยะทางได้สูงสุด
เหล็ก 718 CB ยังคงเป็นรูปลักษณ์เบลดแควิตี้แบ็คแบบคลาสสิค ใส่ทังสเตนที่ส้นและปลายใบเช่นกันในเหล็ก 2-7 เพื่อเพิ่ม MOI และดึงจุดศูนย์ถ่วงให้อยู่ต่ำ ตัวหน้าเหล็กบางเพียง 3.1 มิลลิเมตร เพื่อสร้างบอลสปีดให้ระยะทางได้สูงสุด ขณะที่เหล็กสั้น 8-PW เป็นเหล็กโครงสร้างชิ้นเดียวเพื่อให้ประสิทธิภาพด้านความแม่นยำสมกับที่เป็นเหล็กทำสกอร์ ส่วน 718 MB เป็นเหล็กเบลดหลังตันที่เหมาะสำหรับผู้เล่นมือดีโดยเฉพาะ รุ่นใหม่นี้มีจุดเด่นอยู่ที่วางน้ำหนักไว้ตรงที่สวีทสปอต เพื่อให้ฟีลลิ่งและเอื้อต่อการเล่นการแต่งช็อตอย่างที่นักกอล์ฟมือดีนั้นต้องการ
สุดท้ายคือ 718 T-MB ที่วางตัวเป็นเหล็กแบบ Driving iron เน้นสร้างระยะ แต่ก็สามารถใช้แบบฟูลเซ็ตได้ดีเช่นกัน มีจุดเด่นที่ต่อยอดมาจากโมเดลก่อนคือ การใส่ทังสเตนทั้งก้อนที่ฐานใบเพื่อเพิ่ม MOI ให้ใบนิ่ง และชดเชยความผิดพลาดได้สูงสุด ตัวใบเหล็กแบบโครงสร้างแบบกลวง และดีไซน์จุดศูนย์ถ่วงแบบ progressive CG เพื่อให้ได้มุมเหินและอัตราสปินที่เหมาะสมตลอดกันทั้งเซ็ต
ตระกูลชุดเหล็ก 718 จาก Titleist มีกำหนดวางขายพร้อมกันทั่วโลกในวันที่ 29 กันยายนนี้ ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ บริษัท แอคูชเน็ท กอล์ฟ (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02-751-4082-5