กลายเป็นนวัตกรรมไม้กอล์ฟ ที่แทบทุกคนตอนนี้ต้องมีติดไว้ในถุงกอล์ฟ สำหรับ “ไม้ไฮบริด” ที่ก้าวขึ้นมาแทนเหล็กยาวได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ด้วยจุดเด่นของไฮบริดคือ เป็นไม้ทีตีง่ายกว่ามาก อีกทั้งยังสามารถให้ไฟลท์บอลที่เหินโด่งได้มากกว่า ทำให้ลูกตกในมุมที่ชันขึ้น โดยเฉพาะกับนักกอล์ฟที่สวิงสปีดไม่สูง ช่วยให้ช็อตขึ้นกรีนยาวๆ สามารถทำให้ลูกตกหยุด กลายเป็นช็อตที่บุกทำคะแนน ไม่ใช่ช็อตที่เล่นเพื่อเซฟคะแนนอีกต่อไป
Titleist เข้าใจความหมายของไม้ไฮบริดเป็นอย่างดี และนั่นคือที่มาของไม้ไฮบริด TSi2 และ TSi3 รุ่นใหม่ล่าสุด
ไม้ไฮบริด TSi2 และ TSi3 เป็นการพัฒนาต่อยอดมาจากเทคโนโลยี Titleist Speed Chassis ด้วยโครงสร้างที่กระจายน้ำหนักอย่างเหมาะสม หน้าไม้ และฝาด้านบนบางลง ทำให้ตำแหน่งของจุด CG อยู่ต่ำลง ซึ่งให้มุมเหินของลูกสูงขึ้น สปินต่ำลง และมีค่า MOI ที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของไม้ไฮบริด
หน้าไม้ของทั้งสองรุ่นเป็นวัสดุเหล็ก Carpenter 455 ผลิตด้วยกระบวนการฟอร์จ เป็นหน้าไม้ที่บางมาก ให้ความเร็วได้สูงสุด เท่าที่ Titleist เคยมีมา สร้างความเร็วลูกกอล์ฟได้สูงขึ้น และชดเชยความผิดพลาดได้มากขึ้น
TSi2 และ TSi3 คือตัวเลือกที่แตกต่างกัน สำหรับ TSi2 ถูกออกแบบให้ชดเชยความผิดพลาดได้สูงมาก ให้ประสิทธิภาพสูงสุด จากมุมเหินสูง ตีง่าย และไกล รูปทรงมีขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับนักกอล์ฟที่มีแนวสวิงแบบกวาด และนักกอล์ฟที่ชื่นชอบไม้ไฮบริดที่มีรูปทรงคล้ายหัวไม้แฟร์เวย์
ส่วนไม้ไฮบริด TSi3 มีรูปที่ทรงกะทัดรัด ปราดเปรียว ใกล้เคียงกับเหล็กมากกว่า ด้านปลายเป็นทรงเหลี่ยมยิ่งขึ้น ไม้ไฮบริด TSi3 ถูกออกแบบให้ลูกกอล์ฟพุ่งออกจากหน้าไม้ด้วยความเร็วสูง มีเทคโนโลยีระบบปรับตำแหน่งจุดศูนย์ถ่วง SureFit CG Track แบบเดียวกันกับหัวไม้แฟร์เวย์ TSi3 รุ่นใหม่ ทำให้นักกอล์ฟสามารถปรับตำแหน่งของจุดศูนย์ถ่วง ไปทางด้านโคน กลาง หรือปลาย ให้เหมาะสมกับรูปแบบการสวิง และตำแหน่งที่หน้าไม้ปะทะลูก
TSi3 เป็นรุ่นที่ออกแบบตามคำแนะนำ และความต้องการของผู้เล่น Titleist ในทัวร์ ที่ต้องการไม้ไฮบริด ที่ให้มุมเหินปานกลาง ให้ระยะแม่นยำ และให้ประสิทธิภาพในการควบคุมลูก คล้ายกับการตีด้วยเหล็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหมาะสำหรับนักกอล์ฟที่ตีเข้าปะทะลูกในมุมชัน
Josh Talge, Vice President, Titleist Golf Club Marketing เผยถึงไม้ไฮบริดรุ่นใหม่นี้ว่า “สิ่งสำคัญที่แตกต่าง ในการทำฟิตติ้ง และประสิทธิภาพ ระหว่างไม้ไฮบริด Titleist TSi รุ่นใหม่ กับไม้ไฮบริดแบรนด์คู่แข่ง คือ คุณสมบัติในการปรับแต่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรุ่น TSi3 นักกอล์ฟจำนวนมากให้ความสำคัญ ในการทำฟิตติ้ง ไดรเวอร์ และชุดเหล็ก ที่จริงแล้ว การฟิตติ้งไม้ไฮบริด ก็มีความสำคัญไม่ต่างกัน? นักกอล์ฟอาจจำเป็นต้องเพิ่ม หรือลดองศาหน้าไม้ เพิ่มองศา หรือลดองศาของมุมไล เพิ่มให้ได้ระยะต่างที่ต้องการอย่างแม่นยำ ระบบการปรับเหล่านี้ มีอยู่ในไม้ไฮบริด TSi รุ่นใหม่ พร้อมด้วยประสิทธิภาพที่โดดเด่นทุกด้านที่นักกอล์ฟต้องการจากไม้ไฮบริด ซึ่งทำให้ทั้งสองรุ่น เหนือกว่าไม้ไฮบริดอื่นๆ”
เรื่องนี้พิสูจน์ด้วยสถิติว่า ไม้ไฮบริดของ Titleist ที่ถูกใช้ลงแข่งขันใน PGA Tour ตั้งแต่ปี 2014 จนถึงปัจจุบัน ผู้เล่นมากกว่า 60 เปอร์ซ็นต์ในทัวร์ ใช้ไม้ไฮบริด ที่มีการปรับแต่ง ไม่ได้เซ็ตตามค่ามาตรฐานทั่วไป
การปรับแต่งในไม้ไฮบริด TSi2 และ TSi3 มีตั้งแต่เทคโนโลยีคอไม้ SureFit ที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ Titleist ซึ่งสามารถปรับองศาหน้าไม้ และมุมไล ได้ถึง 16 ตำแหน่งอย่างเป็นอิสระต่อกัน รวมถึงการปรับน้ำหนักหัวในการทำฟิตติ้ง นอกจากนี้ใน TSi3 ยังมีเทคโนโลยีรางปรับ SureFit CG Track ที่ออกแบบให้นักกอล์ฟสามารถปรับตำแหน่งของจุด CG ได้อีกด้วย
ไม้ไฮบริด TSi2 วางตลาดที่องศา 18, 21 และ 24 องศา ส่วน TSi3 มีองศาให้เลือกระหว่าง 18 และ 20 ทั้งสองรุ่นมาพร้อมก้านเกรด After Market ให้เลือกระหว่าง Tensei AV White RAW 90 HY (มุมเหินต่ำ สปินต่ำ), HZRDUS Smoke Black RDX 80 HY (มุมเหินต่ำ สปินต่ำ), Tensei AV Blue RAW 65 HY (มุมเหินปานกลาง สปินปานกลาง/ต่ำ) และKuro Kage Black DC 5G 55 HY (มุมเหินสูง สปินปานกลาง)
ไม้ไฮบริด TSi2 และ TSi3 วางขายที่ราคาขายทั่วไป 10,400 บาท
นักกอล์ฟที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมของไม้ไฮบริด TSi2 และ TSi3 สามารถสอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์ได้โดยตรงที่บริษัท แอคูชเน็ท (ประเทศไทย) จำกัด โทร.097-221-8141 หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมคลิก www.titleist.in.th
**สั่งซื้อสินค้ากอล์ฟออนไลน์ผ่าน HotGolf Shop สอบถามสินค้าได้ที่คลิก https://line.me/R/ti/p/%40hotgolf