นักกอล์ฟที่ได้ติดตามข่าวสารวงการรถยนต์ คงเคยจะผ่านสายตากับ “Concept Car” หรือรถต้นแบบที่มีดีไซน์สุดล้ำยุคกันมาบ้าง และถือเป็นการโชว์นวัตกรรมของค่ายรถนั้นๆ แต่อาจจะยังไม่สามารถผลิตออกมาวางขายได้จริงในเวลาอันใกล้
ในอุตสาหกรรมกอล์ฟก็มีแนวคิดในการออกแบบ “Concept Golf Club” ด้วยเช่นกัน เพื่อเป็นการเปิดโอกาสวิศวกรและนักออกแบบสามารถวาดภาพถึงไม้กอล์ฟในฝัน โดยไม่ต้องมีข้อจำกัดใดๆ มาปิดกั้นจินตนาการของพวกเขา
ครั้งแรกๆ ที่วงการกอล์ฟได้สัมผัสกับคำว่า ไม้กอล์ฟแบบคอนเซ็ปต์ เกิดขึ้นเมื่อปี 2014 โดย TaylorMade เรียกเสียงฮือฮาได้อย่างมาก หลังเผยโฉมดีไซน์ไม้กอล์ฟแบบคอนเซ็ปต์ของพวกเขาในงาน PGA Merchandise Show รุ่น MOAD (Mother of all drivers) และ MOAI (Mother of all irons) ในรูปแบบล้ำยุคสุดทันสมัย ซึ่งเป็นการร่วมงานกันระหว่าง TaylorMade และ Priority Designs บริษัทรับออกแบบในเมืองโคลัมบัส, รัฐโอไฮโอ ที่เคยโชว์ฝีไม้ลายมือไว้อุปกรณ์ของ TaylorMade 300 Series และ R7 มาแล้ว
แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายได้แยกทางกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยผลงานสุดท้ายของ Priority Designs คือ โปรดักส์คอนเซ็ปต์ MOAD และ MOAI ดังกล่าวที่มาจากแนวคิดมองข้ามขีดจำกัดทุกสิ่งของไม้กอล์ฟยุคปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องมีความสมเหตุสมผล หรือความที่ไม้กอล์ฟควรจะเป็น ซึ่งแม้ไม้กอล์ฟรุ่นสุดล้ำนี้จะยังไม่มีขายในอนาคตอันใกล้ แต่อย่างน้อยก็ทำให้คอกีฬกอล์ฟสามารถมีความหวังได้ว่า น่าจะได้เห็นอะไรใหม่ๆ จาก
แบรนด์ผู้ผลิตไม้กอล์ฟในอนาคต ขณะที่ต่อมา Priority Designs ได้ย้ายไปร่วมงานกับ Nike Golf แทน และเปิด และผลงานของพวกเขาที่หลายคนน่าจะจดจำกันได้คือ Covert และ Covert 2.0 ที่ออกแบบไดรเวอร์ให้มีโพรงที่ท้องไม้
หลายปีผ่านไป คอกีฬากอล์ฟยังคงเฝ้าคอยสิ่งใหม่ๆ จากแบรนด์ผู้ผลิตอุปกรณ์ มีบางแบรนด์ที่ทำมาใกล้เคียง อาทิ PXG ที่มีคอนเซ็ปต์เป็นไม้กอล์ฟแบบไฮเอนด์ เน้นวัสดุที่ดีที่สุด และใช้เทคโนโลยีที่สูงที่สุด โดยไม่ต้องคำนึงถึงราคา หรือต้นทุนในการผลิตแต่อย่างใด
กระทั่งต่อมาที่ถึงคราวของ Titleist เมื่อได้เผยโฉมสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า “Concept Club” ออกมา กับไดรเวอร์และชุดเหล็กรุ่น “C16” และมันได้รับการตอบรับที่ดีทันที ด้วยภาพลักษณ์ที่ดูสวยงามและทันสมัย แต่น่าเสียดายที่เป็นการผลิตแบบจำกัดจำนวน โดยไดรเวอร์ผลิตออกมาเพียง 1,500 ชิ้น และชุดเหล็กเพียง 1,000 ชุดเท่านั้น
แม้จะเป็นการผลิตแบบจำกัดจำนวน แต่อย่างน้อยนักกอล์ฟก็ยังได้สัมผัสกับ C16 แบบอ้อมๆ เมื่อเทคโนโลยีที่ถูกคิดค้นเพื่อนำมาใช้ใน C16 ก็ได้ถูกต่อยอดมาใช้ในไลน์ปกติของ Titleist ด้วยเช่นกัน เฉพาะอย่างยิ่ง SureFit CG ซึ่งเป็นครั้งแรกที่แบรนด์นำเทคโนโลยีปรับแต่งน้ำหนักในหัวไดรเวอร์มาใช้ เพื่อปรับ CG และ MOI โดยใช้ครั้งแรกในรุ่น 917 รวมถึงยังพัฒนาต่อเนื่องมายัง Titleist TS3 รุ่นล่าสุดด้วยเช่นกัน
จาก C16 กระทั่งมาถึงปี 2019 Titleist กลับมาอีกครั้งด้วยรุ่น CNCPT ด้วยแนวคิดต้องการสร้างให้เป็นชุดเหล็กที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยการให้อิสระกับทีมวิจัย และพัฒนา ในการพัฒนาการกระบวนการผลิต และใช้เทคโนโลยีทางวัสดุที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาในวงการ โดยไม่คำนึงถึงค่าใช้จ่าย
ชุดเหล็ก CNCPT เปิดตัวมา 2 โมเดลระหว่าง CP-01 และ CP-02 ทั้งสองรุ่น ผลิตด้วยอัลลอยที่หายาก และแข็งแรงมากเป็นพิเศษ วัสดุนี้ไม่เคยถูกใช้ในการผลิตไม้กอล์ฟมาก่อนด้วย นอกจากนี้ยังถูกออกแบบใส่ทังสเตนความหนาแน่นสูง ปริมาณมากเป็นพิเศษ หรือคิดเป็นเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักใบเลยทีเดียว
แต่ที่ต่างจาก C16 คือในเหล็กรุ่น CNCPT ถูกวางขายทั่วโลก โดยในประเทศไทยวางขายไปตั้งแต่เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ต้องเป็นการออเดอร์เท่านั้น รวมถึงนักกอล์ฟที่ต้องการซื้อจะต้องทำฟิตติ้งกับผู้เชี่ยวชาญจาก Titleist อีกด้วย
จากวันนั้นถึงวันนี้ ในที่สุดโอกาสก็เป็นจริงสำหรับนักกอล์ฟที่ได้สัมผัสกับไม้กอล์ฟแบบมีคอนเซ็ปต์ และสามารถซื้อมันมาครอบครองได้ หรือไม่ถ้าคุณแค่อยากลองทดสอบประสิทธิภาพของมันดู ติดต่อไปที่ Titleist Thailand ได้เลยครับ แล้วมาบอกฟีดแบ็คให้เรารับทราบด้วยก็จะดีไม่น้อยที่ไลน์ไอดี @HotGolf ครับ!!