ถือเป็นรุ่นพัตเตอร์ที่ประสบความสำเร็จมากทีเดียวของ Odyssey (โอดิสซีย์) สำหรับ Stroke Lab ด้วยการนำเทคโนโลยีก้านใหม่ล่าสุดอย่าง Stroke Lab มาใช้เป็นครั้งแรก และได้รับการตอบรับอย่างดีด้วยทั้งยอดขาย และจากการเลือกใช้โดยนักกอล์ฟในทัวร์
ก้านพัตเตอร์ Stroke Lab เป็นนวัตกรรมที่ Odyssey พัฒนาขึ้นด้วยการนำสองวัสดุเข้ามาประกอบกัน เพื่อช่วยในการจัดวางน้ำหนัก โดยบอดี้หลักของก้านเป็นกราไฟต์ และมีส่วนปลายก้านเป็นเหล็ก ทำให้สามารถลดน้ำหนักลงได้เบาจากก้านปกติถึง 40 กรัม และนำน้ำหนักที่ได้ไปกระจายไว้ส่วนปลายทั้งที่กริพและหัวพัตเตอร์ได้มากขึ้น ช่วยให้สามารถดีไซน์หัวพัตเตอร์ที่มีการกระจายน้ำหนักได้มากขึ้น และนั่นส่งผลให้การพัตต์นั้นมีความสม่ำเสมอมากยิ่งขึ้น ทั้งด้านทิศทาง และน้ำหนักในการพัตต์
กระทั่งล่าสุด Odyssey ยังได้ต่อยอดเสริมอีกหนึ่งซีรี่ส์ย่อยอย่าง Stroke Lab “Black” โดยเน้นโทนสีพัตเตอร์ให้ดำเข้มดุดันแต่ดูสะอาดตา อีกทั้งยังเป็นรูปทรงใหม่ล่าสุดเลยอย่าง Ten และ Bird of Prey ที่มาในคอนเซ็ปต์ Super High MOI ที่เน้นความเสถียร และการชดเชยความผิดพลาดสูงสุด โดยมีการบิดตัวของหัวพัตเตอร์ขณะเข้าปะทะลูกน้อยที่สุด และทันทีที่เปิดตัวก็เรียกเสียงฮือฮาจากนักกอล์ฟได้ทันที โดยเฉพาะเมื่อถูกเลือกใช้โดย ฟิล มิคเคลสัน ในรุ่น Ten จากที่ทุกคนรู้ดีว่าก่อนหน้านี้เขาใช้พัตเตอร์ทรง #9 ทรงเบลดแบบดั้งเดิมขนานแท้เป็นพัตเตอร์คู่ใจมาอย่างยาวนานจนกลายเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวไปแล้ว
สำหรับรุ่น Ten เป็นพัตเตอร์ทรงมัลเล็ทที่เน้นกระจายน้ำหนักเพื่อให้ความนิ่งในการพัตต์ มีการดีไซน์เพิ่มปีกที่ส่วนโคนและปลายด้านหลังจากเฟรมหลัก และมีการใช้แกนกลางบริเวณท้องไม้เป็นวัสดุ thermoplastic polymer ที่มีน้ำหนักเบา ทำให้กระจายน้ำหนักรอบข้างได้มากขึ้น เพื่อเพิ่ม MOI และยังช่วยเสริมฟีลลิ่งการพัตต์ทั้งด้านสัมผัสและเสียง นอกจากนี้ก็ยังช่วยให้นักกอล์ฟสามารถจรดพัตเตอร์ในตำแหน่งที่พอดีได้มากขึ้นอีกด้วย
ขณะที่รุ่น Bird of Prey ถูกเปิดเผยว่า มีการเสริมคุณสมบัติการชดเชยความผิดพลาดให้สูงขึ้นอีก ด้วยรูปทรงที่มีการดีไซน์ยืดส่วนโครงให้ยาวไปทางด้านหลัง และมีส่วนท้ายเป็นทรงสามเหลี่ยม โดยจะช่วยให้นักกอล์ฟเล็งพัตต์ได้อย่างมั่นใจ โดยทั้งสองรุ่นจะเสริมด้วยไลน์ช่วยเล็งแบบ Hi-Def Alignment เป็นเส้นสีขาวขนาดใหญ่เต็มตา ลากยาวตั้งแต่หน้าพัตเตอร์จนถึงส่วนท้าย ตัดกับการทำสีดำแบบ PVD เพื่อให้มีการเล็งอย่างชัดเจน ขณะเดียวกันก็ให้รูปลักษณ์ของพัตเตอร์ที่ดูพรีเมี่ยมสะอาดตาไปพร้อมกัน
ในส่วนของหน้าพัตเตอร์ White Hot microhinge ในสองโมเดลนี้ ยังได้มีการปรับปรุงใหม่อีกเล็กน้อยตามฟีดแบ็คจากผู้เล่นในทัวร์ ใช้ชื่อว่า Microhinge Star โดยหน้าพัตเตอร์แบบใหม่จะให้ความรู้สึกในการพัตต์ที่เฟิร์มยิ่งขึ้น และเสียงในการพัตต์ที่ชัดเจนขึ้น แต่ยังคงจุดเด่นด้านการให้อัตราโรลลูกจากหน้าพัตเตอร์ เพื่อให้เกาะไลน์ได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
พัตเตอร์ Odyssey Stroke Lab Black Ten และ Bird of Prey มีวางจำหน่ายในบ้านเราเรียบร้อยแล้ว ด้วยราคาขายชิ้นละ 13,900 บาท นักกอล์ฟที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามรายละเอียดผลิตภัณฑ์ได้โดยตรงที่บริษัท ลีโอเนียน (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02-056-1880
**สมัคร HotGolf Member ฟรี! รับข่าวสารเรื่องเด่นและน่าสนใจส่งตรงถึงอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ พร้อมสิทธิประโยชน์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น กรอกข้อมูลได้ที่คลิก http://wow.in.th/aHfN