เท่าที่ผมจำได้ นักกอล์ฟใน PGA TOUR ที่ประสบความสำเร็จกับการใช้กริปพัตเตอร์ที่มีขนาดใหญ่นั้นก็คือ KJ CHOI ถ้าผิดพลาดประการใดผมต้องขออภัยด้วยนะครับ แต่ที่ยืนยันว่าเป็น KJ นั้นก็เพราะกริพยี่ห้อนี้ เป็นที่นิยมในวงการกอล์ฟบ้านเราเป็นอย่างมากในขณะนั้น แล้วขนาดของกริพ มีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับการพัตต์
ในการทำฟิตติ้งพัตเตอร์นั้น นอกจากความยาว และแบบของพัตเตอร์ จะมีอิทธิพลต่อสโตรกในการพัตต์ของเราแล้ว ขนาดของกริพก็เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการฟิตติ้งพัตเตอร์ด้วยเช่นกัน เพราะขนาดของกริพ จะมีความเกี่ยวข้องกับไล (lie) ของพัตเตอร์ด้วย ขนาดของกริพที่ใหญ่ขึ้น จะทำให้ไลของพัตเตอร์เปลี่ยนแปลงชันขึ้น ประมาณ 1 องศา ซึ่งตรงนี้อาจจะมีอิทธิพลไม่มากเท่าใดนัก จะแตกต่างกับดีไซน์ และความยาวของพัตเตอร์ที่มีความสำคัญโดยตรงกับธรรมชาติในการสโตรกพัตเตอร์ของท่าน
แต่ขนาดของกริพนั้น จะอยู่ที่เรื่องของความรู้สึก และความต้องการของนักกอล์ฟมากกว่า หลายท่านอาจมองว่า การเปลี่ยนกริพในปัจจุบัน เป็นเรื่องของแฟชั่น เพราะทั้งดีไซน์ และสีสรรของกริพพัตเตอร์ในปัจจุบัน เป็นอะไรที่ดึงดูดใจอยู่ไม่น้อย แต่ถ้าจะให้แนะนำกันตามหลักการนั้น ผมขอให้เลือกที่ความรู้สึกของนักกอล์ฟเป็นหลักครับ ถึงแม้ว่าขนาดของกริพที่ใหญ่ขึ้น จะสามารถลดการใช้ข้อมือ และทำให้มุมเข้าปะทะและจังหวะในการพัตต์มีความสม่ำเสมอขึ้นก็ตาม แต่ความรู้สึกหรือฟิลลิ่งในการพัตต์นั้น ยังเป็นสิ่งที่มีความสำคัญที่สุด กริพที่มีขนาดเล็กกว่าจะทำให้นักกอล์ฟรู้สึกถึงการให้น้ำหนัก (สปีด) ได้ดีกว่า เพราะตามหลักของการพัตต์นั้น การให้น้ำหนัก มีความสำคัญมากกว่าการให้ไลน์ (ทิศทางในการพัตต์)
ผมเชื่อว่าท่านคงเคยเห็นการพัตต์สะบัดปาก หรือพัตต์ได้ระยะที่ถูกต้องแต่ลูกไม่เลี้ยว นี่แหละครับคือความผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับการให้น้ำหนัก หรือให้สปีดที่ไม่ถูกต้อง แต่ในทางกลับกัน ถ้าเราให้ทิศทางผิดเล็กน้อยแต่ให้น้ำหนัก หรือสปีดที่ถูกต้อง ลูกกอล์ฟอาจจะกลิ้งลงหลุมในด้านข้างหรือวนลงทางด้านหลังก็เป็นได้ นี่คือที่มาของหลักการที่ว่า “Speed is more important than line”
ดังนั้น ขนาดของกริพ ไม่ว่าจะเป็นแบบเล็ก ธรรมดา หรือใหญ่ ก็สามารถใช้ได้เหมือนกันหมดครับ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความรู้สึกของนักกอล์ฟเป็นหลัก หลักวิชาการ หรือความเชื่อต่างๆ เป็นเพียงแค่เหตุผลรองในการพัตต์ เราจะเน้นที่ความรู้สึกเป็นหลักครับ
เรื่องโดย: โปรกอล์ฟ ฐิติพงษ์ ณ สงขลา #349