ชุดเหล็กในถุงกอล์ฟของผมยังคงเป็นเหล็กของมิซูโน่ ตระกูล MP ที่ใช้มาอย่างยาวนานครับ ด้วยความชื่นชอบส่วนตัว และคุณสมบัติที่คิดว่าเหมาะสมกับตัวเอง นั่นก็คือเน้นความนุ่มนวล ให้ฟิลลิงที่ดี ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้เปลี่ยนไปใช้รุ่นอื่น
จนล่าสุดมีโอกาสได้ไปทดสอบชุดเหล็กรุ่นใหม่ของค่ายนี้ซึ่งเป็นซีรี่ส์ของปี 2023 นั่นก็คือเหล็กตระกูล Pro ที่ออกมา 4 โมเดลคือ Pro 241, 243, 245 และ Fli Hi ต้องบอกว่าหน้าตาน่าตีเอามากๆ ทั้งรูปทรง และคุณสมบัติที่เขาปรับมาให้เหมาะกับนักกอล์ฟหลายๆ ระดับฝีมือ เราไปลองดูกันว่าแต่ละรุ่นจะมีดียังไงบ้างครับ
ผมเริ่มที่ตัว Pro 241 ชุดเหล็กรูปทรงมัสเคิลแบ็ค ที่มีการกระจายนำหนักให้มีความสมดุลอยู่ตรงกลางด้านหลังใบเหล็ก บริเวณที่อิมแพคลูก ทำให้ตีแล้วรู้สึกแน่นขึ้น เสียงตึบๆ และเข้าบอลได้ทิศทางที่ตรงขึ้น ไม่ค่อยออกซ้ายหรือขวา โดยก้านที่ผมลองเป็น Dynamic Gold 105 ซึ่งส่วนตัวก็ยังถือว่าหนักพอสมควรเพราะความเร็วตอนนี้อาจจะเร่งให้ก้านทำงานได้อย่างเต็มที่ได้ยากหน่อยครับ ลูกจะไม่ค่อยลอยโด่งนัก วิถีลูกจะพุ่งต่ำ จะเหินปลายๆ เล็กน้อย
สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของมิซูโน่มาอย่างยาวนานนั่นคือการใช้กระบวนการฟอร์จแบบ Grain Flow Forged HD ในการผลิตซึ่งมีมาตั้งแต่ปี 1968 โดยเขาเอาเหล็กวัสดุคาร์บอน สตีล 1025E แบบชิ้นเดียวมาขึ้นรูป ซึ่งในรุ่น 241 เขามีการเสริมชั้นทองแดงไว้ใต้วัสดุนิเกล โครม เพิ่มความสัมผัสเพื่อสร้างความรู้สึกที่ให้ดียิ่งขึ้น
รวมทั้งการใช้เทคโนโลยี Harmonic Impact รองรับแรงสั่นสะเทือนไว้ตรงกลางก็ยิ่งเสริมเรื่องฟิลลิงที่นุ่มนวล ชุดเหล็กนี้น่าจะเหมาะกับนักกอล์ฟที่มือดีหน่อยที่ต้องการตีแบบเน้นการควบคุม การปรุงแต่งช็อต ให้ความรู้สึกใบเหล็กที่คล้ายนักกอล์ฟในทัวร์ แต่มือใหม่ที่ชื่นชอบก็ตีได้นะครับ อาจจะไปปรับเรื่องก้านให้เหมาะกับความเร็วของตัวเอง ซึ่งน่าจะช่วยได้เพราะใบก็ไม่ได้เล็กจนรู้สึกว่าจะตีไม่ได้
ที่เพิ่มมาอีกอย่างคือมีการเพิ่มองศาหน้าเหล็ก 1 องศาในเหล็กยาว และ 2 องศาในเหล็กสั้น และทำเบาวซ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตีผ่านหญ้าได้ดี
ในรุ่น Pro 243 นั้นก็ยังคงใช้วัสดุแบบเดียวกันและกระบวนการเดียวกันกับ 241 แต่รุ่นนี้จะเป็นคาวิตี้ แบ็คมีโพรงด้านหลังใบเหล็ก ซึ่งตัวล่าสุดจะปรับให้โพรงนั้นกว้างและยาวขึ้นกว่ารุ่นก่อน ช่วยเพิ่มพื้นที่การปะทะลูกบริเวณหน้าไม้ ทำให้ตีได้ง่าย วิถีลูกที่ลอยโด่งและเพิ่มความเร็วลูกกอล์ฟให้มากขึ้น ผมลองกับก้าน NS Pro 950 Neo ซึ่งจะเบาและตีง่าย ทำให้ลูกลอยโด่งกว่า ระยะก็จะไกลขึ้น และช่องว่างในเหล็กแต่ละเบอร์ก็ดูจะสม่ำเสมอมากกว่าเดิมเพราะเขามีการออกแบบองศาของเหล็กให้ใกล้เคียงกันมากขึ้น ระยะที่ได้ก็จะไล่ระดับพอดี
รุ่น 243 จะใช้ Harmonic Impact Technology เทคโนโลยีที่รองรับแรงสั่นสะเทือนเพื่อความรู้สึกที่นุ่มนวลคล้ายเหล็กที่เป็นแบบมัลเคิลแบ็ค และส่วนท้องใบเหล็กออกแบบให้มนขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตีผ่านหญ้าและสร้างความกลมกลืนจากการตีเหล็ก 7 ที่เป็นแบบไมโคร สลอตไปเป็นเหล็ก 8 ที่เป็นรูปทรงดั้งเดิม
รุ่น Pro 245 เขาบอกว่าเน้นให้ตีง่ายและสร้างความเร็วได้สูงครับ มองจากรูปทรงจะคล้ายกับ 241 แต่ใบเหล็กจะใหญ่กว่าเล็กน้อย สันด้านบนจะดูหนากว่าและเป็นโพรงมากกว่า ส่วนเทคโนโลยีในรุ่นนี้อัดแน่นมาก วัสดุจะเป็นแบบผสมคือทั้งคาร์บอน สตีล และสแตนเลส สตีล โดยเหล็กยาว 2-8 จะใช้สแตนเลส สตีล ด้านหลังเชื่อมกับหน้าเหล็กวัสดุพิเศษ ส่วนเหล็ก 9-GW จะเป็นโพรงและใช้คาร์บอน สตีลหน้าไม้และคอไม้ เสริมทังสเตนเพื่อช่วยในเรื่องการตีให้ได้ระยะ ผมลองกับก้าน NS Pro 950 Neo ลูกลอยง่ายมาก
ส่วนของเทคโนโลยีมีทั้ง Harmonic Impact Technology และการเคลือบชั้นทองแดงใต้นิเกิล โครม และเพิ่มเบาวซ์ 1 องศาในเหล็กยาวและ 2 องศาในเหล็กสั้น สิ่งที่คือระยะที่ดูจะแครี่ได้ไกลกว่าเดิมครับ ด้วยความที่เป็นโพรง ทำให้เสียงและวิถีลูกที่ลอยออกไปค่อนข้างน่าพอใจเลยครับ คนที่ชอบฟิลตีโด่งๆ ลอยง่ายๆ ตั้งรุ่นนี้เลย
ส่วนเหล็กในรุ่น Fli Hi จะเป็นเหมือนตัวเหล็กยาวที่เสริมเข้ากับชุดเหล็กที่เรามีครับ สำหรับคนที่ชอบตีเหล็กมากกว่าฟิลลิงการตีไฮบริด ซึ่งรุ่นล่าสุดเขาปรับโครงสร้างวัสดุใหม่ให้ยืดหยุ่นดีกว่าเดิม สปีดบอลก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย เสริมทังสเตนด้านล่างทำให้ลูกลอยได้ง่าย และการในสีดำเคลือบผิวดูดุดันและข้อดีอีกอย่างคือลดแสงสะท้อนเข้าตาได้อีกด้วยครับ ตอนนี้เหล็กทุกรุ่นของมิซูโน่วางตลาดแล้ว สามารถไปเลือกชมกันได้ครับ
ติดตาม HotGolf ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ https://linktr.ee/hotgolfclub
**สั่งซื้อสินค้ากอล์ฟออนไลน์จากทุกแบรนด์ชั้นนำ ผ่าน HotGolf Shop สอบถามสินค้าได้ที่คลิก https://line.me/R/ti/p/%40hotgolf