Site icon เว็บไซต์ HotGolfClub.com เว็บไซต์กีฬากอล์ฟอันดับหนึ่ง ในการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร ที่เป็นประโยชน์ต่อวงการกอล์ฟ และอยู่เคียงคู่กับนักกอล์ฟมายาวนานกว่า 20 ปี

“6 โรค” ต้องระวัง ในช่วงฤดูฝน

ในช่วงนี้ นอกจากเรื่องของไวรัสโควิด-19 ที่กำลังระบาดในบ้านเราอย่างหนักแล้ว ฝนฟ้าช่วงนี้ก็ยังตกอย่างต่อเนื่อง เพราะอยู่ในช่วงฤดูฝน และในช่วงนี้เอง สภาพอากาศ และความชื้น ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เอื้อต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโรคหลายชนิด ซึ่งก็ยิ่งทำให้เราต้องระมัดระวังเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น

ครั้งนี้ HotGolf เลยขอนำข้อมูลจากกรมควบคุมโรค เพื่อให้ท่านนักกอล์ฟระมัดระวัง กับสิ่งต่างๆ ที่อาจเป็นสาเหตุของการเกิดโรคที่จะมาในช่วงน่าฝน กับ 6 โรค ต้องระวังช่วงฤดูฝน

1. โรคระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ คออักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบหรือปอดบวม
– สาเหตุ
เชื้อไวรัส และแบคทีเรียที่ปนเปื้อนอยู่ในอากาศชื้นช่วงฤดูฝนจะเป็นพาหะของโรค โดยจะมีการแพร่กระจายของเชื้อโรคง่ายและเร็ว เพียงแค่ไอ จาม หรือสัมผัสกับน้ำมูกที่ปนเปื้อนเชื้อก็ทำให้เกิดโรคได้
– อาการ
หวัดที่เกิดจากเชื้อไวรัสจะทำให้มีอาการไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อย เจ็บคอ ไอจาม คัดจมูก แสบตา น้ำตาไหล ตาแดง ส่วนใหญ่จะมีอาการอยู่ประมาณ 5-7 วัน ก็จะหายเป็นปกติ ถ้าเป็นหวัดที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ผู้ป่วยมักจะมีอาการไข้สูง บางรายอาจหนาวสั่น ไอ เจ็บคอ น้ำมูกไหล ซึ่งลักษณะของน้ำมูกมักจะมีสีเขียวปนเหลืองให้เห็นตั้งแต่วันแรกๆ ของการเป็นโรค อาจตรวจพบต่อมน้ำเหลืองบริเวณลำคอ และกดเจ็บร่วมด้วย
– วิธีการป้องกัน
ควรใช้ผ้าปิดปาก และจมูก เมื่อไอ จาม หรือสวมหน้ากากอนามัย และหมั่นล้างมือบ่อย ๆ ป้องกันไม่ให้เชื้อโรคแพร่กระจาย หลีกเลี่ยงการคลุกคลี หรือใกล้ชิดกับผู้ป่วย เพื่อป้องกันการรับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย

2. โรคเลปโตสไปโรซิส หรือโรคฉี่หนู
– สาเหตุ
โรคนี้มีหนูและสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข สุกร โค กระบือ รวมทั้งสัตว์ป่า สัตว์ที่มีฟันแทะทั้งหลายเป็นพาหะ เชื้อเหล่านี้จะปะปนอยู่ในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง และจะเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย ผ่านทางบาดแผล รอยขีดข่วน เยื่อบุจมูก เยื่อบุตา เยื่อบุในช่องปาก
– อาการ
หลังได้รับเชื้อประมาณ 1-2 อาทิตย์ จะมีไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะมักปวดกล้ามเนื้อบริเวณน่อง โคนขาอย่างรุนแรง ตาแดง คอแข็ง สลับกับไข้ลด ในกรณีที่เป็นมากอาจมีจุดเลือดออกที่เพดานปากหรือตามผิวหนัง จนกระทั่งตับวาย ไตวายได้ สำหรับผู้ที่มีไข้ไม่สูงมากควรเช็ดตัวลดไข้เป็นระยะ และรับประทานยาลดไข้
– วิธีการป้องกัน
ควรหลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำย่ำโคลนที่ชื้นแฉะ หากจำเป็นต้องเดินลุยน้ำควรสวมรองเท้าบูทป้องกันไม่ให้เท้าสัมผัสน้ำหรือดินโดยตรง หากเดินย่ำน้ำที่ท่วมขัง หรือน้ำสกปรก ต้องรีบล้างเท้าให้สะอาด และเช็ดเท้าให้แห้งทุกครั้ง

3. โรคน้ำกัดเท้า
– สาเหตุ
เกิดจากการเดินลุยน้ำสกปรกนานๆ หรือการพักอาศัยอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขังต้องลุยน้ำช่วงฝนตก
– อาการ
โดยเชื้อราจะทำให้ผิวหนังซอกนิ้วเท้าแดง ขอบนูนเป็นวงกลม คัน เมื่อเกาแผลจะแตก และมีน้ำเหลืองเยิ้มออกมา
– วิธีการป้องกัน
หลีกเลี่ยงการเดินในที่ที่มีน้ำขัง หรือน้ำท่วมสูง แต่หากจำเป็นต้องเดินลุยน้ำ ควรต้องหารองเท้าบูทมาสวมใส่ รีบล้างเท้าและเช็ดเท้าให้แห้งทุกครั้ง

4. โรคไข้เลือดออก
– สาเหตุ
โรคที่มียุงลายเป็นพาหะ หากถูกยุงกัด
– อาการ
หลังจากได้รับเชื้อประมาณ 5-8 วัน ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง (38.5-41 องศาเซลเซียส) ติดต่อกัน 2-7 วัน หน้าแดง ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดกระดูก บางรายเบื่ออาหาร ปวดท้อง อาเจียน จากนั้นจะมีจุดแดงเล็กๆ ขึ้นตามลำตัว ในรายที่มีอาการรุนแรงจะเกิดภาวะช็อกหลังไข้ลดลงอย่างรวดเร็ว ตัวเย็น ปากเขียว บางรายมีเลือดออกในกระเพาะอาหาร ถ่ายเป็นเลือด หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องและทันเวลา ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตได้ภายใน 12-24 ชั่วโมง
– วิธีการป้องกัน
ควรกำจัดแหล่งเพาะพันธ์ยุงลาย ที่อยู่บริเวณที่อยู่อาศัย ระวัง และป้องกัน ไม่ให้ถูกยุงกัด

5. โรคติดต่อของระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน บิด ไทฟอยด์ อาหารเป็นพิษ
– สาเหตุ
เกิดจากการรับประทานอาหารที่มีการปนเปื้อนของเชื้อจุลชีพที่ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินอาหาร ที่ลำไส้
– อาการ
ผู้ป่วยจะมีอาการท้องเสีย ถ่ายเหลวเป็นน้ำ อาจมีไข้ ปวดบิดในท้อง และหากติดเชื้อบิดอาจมีมูก หรือเลือดปนอุจจาระได้ นอกจากนี้เชื้อไวรัสตับอักเสบชนิด เอ และบี ยังสามารถติดต่อได้จากการรับประทานอาหารปนเปื้อนเชื้อ ผู้ที่มีอาการตับอักเสบจะมีไข้ อ่อนเพลีย มีอาการตัวเหลือง ตาเหลืองหรือดีซ่าน คลื่นไส้อาเจียน
– วิธีการป้องกัน
ควรเลือกรับประทานอาหารที่ปรุงสุก สะอาด และใช้ช้อนกลาง

6. โรคเยื่อบุตาอักเสบ หรือตาแดง
– สาเหตุ
เกิดจากเชื้อไวรัส และแบคทีเรีย ทำให้เยื่อแผ่นบางๆ ที่ครอบคลุมส่วนตาขาว ผลิตเมือกเพื่อเคลือบ และหล่อเลี้ยงผิวของดวงตา
– อาการ
เกิดการระคายเคืองบริเวณดวงตา เส้นเลือดบวม เกิดการอักเสบ และทำให้ตาค่อยๆ แดงขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำตาลดลงซึ่งจะมีอาการประมาณ 1-2 สัปดาห์
– วิธีการป้องกัน
ให้ระวังอย่าให้น้ำสกปรกกระเด็นเข้าตา หากมีน้ำสกปรกกระเด็นเข้าตาให้รีบล้างตาด้วยน้ำสะอาดทันที อย่าใช้มือ แขน หรือผ้าที่สกปรกขยี้ตา หรือเช็ดตา อย่าใช้สิ่งของร่วมกับผู้ที่เป็นโรคตาแดง หรือเยื่อตาอักเสบ

**ค้นหาโปรโมชั่นสนามกอล์ฟจากทั่วประเทศที่ HotGolf รวบรวมไว้มากที่สุดได้ที่กลุ่ม Line OpenChat #GreenFeeMart กลุ่มรวมโปรโมชั่นสนามกอล์ฟคลิก https://bit.ly/2MnVBYz