“ไทเกอร์ วูดส์” กับ “โจ ลาคาวา”…แคดดี้ที่มากกว่าแค่แคดดี้

ถือเป็นประเด็นที่น่าสนใจมาก เมื่อในกลุ่มโซเชียลมีเดียช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีแฟนกอล์ฟบางท่านแสดงความเห็นให้ “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล ควรเปลี่ยนแคดดี้ เพื่อช่วยให้เล่นได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม หลายท่านก็ไม่เห็นด้วย โดยยืนยันว่าแคดดี้คนปัจจุบันก็ถือเป็นมืออันดับต้นๆ ของประเทศไทยแล้ว และถึงเปลี่ยนก็ไม่ได้การันตีว่าผลงานที่ดีมากอยู่แล้วในปัจจุบัน จะดีขึ้นกว่าเดิมแต่อย่างใด

เรื่องนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัว และเราคงไม่ก้าวล่วงความคิดเห็นใคร

อย่างไรก็ตาม อาจจะมีหลายท่านที่มีมองข้ามความสำคัญที่แท้จริงของแคดดี้ไป ว่า แคดดี้อาชีพเหล่านี้ไม่ได้มีความสำคัญแค่วางแผนเก่ง, ประเมินระยะเก่ง หรือดูไลน์เก่งแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

เหมือนกับแคดดี้ที่เราจะมาแนะนำในครั้งนี้คือ “โจ ลาคาวา” ในฐานะที่เขาเป็นแคดดี้ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในวงการกอล์ฟโลก เพราะนักกอล์ฟที่เขาแบกถุงกอล์ฟให้คือ “ไทเกอร์ วูดส์”

ลาคาวา ทำงานร่วมกับ ไทเกอร์ อย่างไรบ้าง? และทำไมเขาถึงเป็นตัวอย่างที่ดีมาก ถึงความสำคัญของแคดดี้ที่ไม่ได้มีหน้าที่แค่บอกระยะกับอ่านไลน์เท่านั้น…ครั้งนี้เรามีคำตอบครับ

เตรียมตัวให้ ไทเกอร์ ตั้งแต่ก่อนแข่ง
หลายคนอาจทราบหรือไม่ทราบว่า แคดดี้นั้นต้องทำงานตั้งแต่ก่อนเริ่มแข่งเสียอีก ตามคลิปด้านบนที่ ลาคาวา มาเล่าถึงการเตรียมตัวให้ ไทเกอร์ ก่อนแข่งขัน
โดยทุกครั้งเขาจะมาถึงสนามแข่งก่อน ไทเกอร์ เสมอ ก่อนไล่ทำงานของตัวเอง ตั้งแต่เตรียมข้อมูลการเล่นในวันนั้นๆ, หยิบแผ่นบอกตำแหน่งธงประจำวัน ไปจนถึงการเตรียมเสบียงขนมให้ ไทเกอร์ ไว้ทานเติมพลังระหว่างเล่น (ของโปรดคือแซนด์วิชเนยถั่ว), เตรียมเครื่องดื่ม, เตรียมชุด-ผ้าขนหนู ฯลฯ ดังจะเห็นได้แล้วว่า แคดดี้นั้นทำงานอะไรมากมายกว่าแค่บอกระยะ หรืออ่านไลน์ในสนามแข่งเท่านั้น

มากกว่าแค่งาน แต่คือความสัมพันธ์ของคนสองคน
แน่นอนสำหรับนักกอล์ฟอเมเจอร์อย่างเราๆ การออกรอบแต่ละครั้ง แคดดี้ที่ดีคือ แคดดี้ที่บริการดี, ให้ระยะแม่น, บอกไลน์พัตต์เป๊ะ
แต่แคดดี้ของนักกอล์ฟอาชีพนั้นต่างออกไป เพราะนี่คือคนที่ต้องทำงานร่วมกันมากถึง 6 วันในสัปดาห์แข่งขัน และนับหลายสิบสัปดาห์ในแต่ละปี ดังนั้น จึงยากที่จะปฏิเสธไม่ได้ว่า การทำงานนี้มันมีความสัมพันธ์อยู่ในนั้น
ไทเกอร์ ให้สัมภาษณ์ว่าเขานับถือ ลาคาวา เหมือนพี่ชายคนหนึ่ง แต่ถ้าดูจากที่ผ่านมา สิ่งที่ ไทเกอร์ ต้องการจากแคดดี้ของเหนือสิ่งอื่นใด ต้องการมากกว่าทักษะการทำงานของแคดดี้ในสนามเสียอีก นั่นคือเรื่องความ “จงรักภักดี”
แคดดี้คนก่อนหน้านี้ของ ไทเกอร์ คือ สตีฟ วิลเลี่ยมส์ ที่ประสบความสำเร็จร่วมกันอย่างมาก คว้าแชมป์เมเจอร์ร่วมกันได้ถึง 13 รายการ อย่างไรก็ตาม ต้นเหตุการแยกทางกันของทั้งคู่คือ วิลเลี่ยมส์ ขอไปรับงานแบกถุงชั่วคราวให้ อดัม สกอตต์ ตอนที่ ไทเกอร์ ไม่ได้ลงเล่นเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ
นั่นทำให้ ลาคาวา ยืนกรานปฏิเสธไม่รับงานถือถุงชั่วคราวให้กับนักกอล์ฟคนอื่นเลย แม้ ไทเกอร์ จะไม่ลงแข่งเนื่องจากอาการบาดเจ็บ หรือลงแข่งน้อยลงก็ตาม และเคยให้สัมภาษณ์ว่าพร้อมรอ ไทเกอร์ เป็นร้อยปีเพื่อให้เขากลับมา ซึ่ง ไทเกอร์ ยอมรับว่าเขาซาบซึ้งกับเรื่องนี้อย่างมาก

ช่วยให้ผ่อนคลาย มากกว่ากระตุ้นให้เป็นแชมป์
นักกอล์ฟหลายคนแสดงออกชัดเจนว่า ความสบายใจที่ได้ทำงานร่วมกันกับแคดดี้ของตัวเองคือสิ่งที่พวกเขาต้องการมากที่สุด
ครั้งหนึ่งผู้เล่นอย่าง รอรี่ แม็คอิลรอย เคยประกาศขอแยกทางกับแคดดี้คู่ใจ เจ.พี.ฟิตซ์เจรัลด์ ที่ทำงานมาด้วยกันนานถึง 9 ปี เพราะรู้สึกว่าอีกฝ่ายกระตุ้นเขามากเกินไป
แม้แต่ผู้เล่นที่ได้ชื่อว่ารับความกดดันเก่งมากที่สุดในโลกอย่าง ไทเกอร์ เองก็เช่นกัน
ย้อนกลับที่หนึ่งในแชมป์ที่สำคัญที่สุดของ ไทเกอร์ กับ ลาคาวา คือ แชมป์เดอะมาสเตอร์สปี 2019 ที่เป็นการกลับมาได้แชมป์เมเจอร์ครั้งแรกในรอบ 11 ปีอย่างยิ่งใหญ่
เมื่อถามถึงคำแนะนำของ ลาคาวา ที่มีต่อ ไทเกอร์ ในการทีช็อตหลุมแรกของรอบสุดท้ายก่อนคว้าแชมป์ มันกลับไม่ใช่เรื่องแผนการเล่น หรือกระตุ้นให้ฮึกเหิมอย่างที่ใครหลายคนคิด โดย ลาคาวา เผยว่า “สิ่งที่ผมบอกกับเขาคือ นายไม่ต้องแบกโลกไว้ทั้งใบหรอกนะ และผมคิดว่าเขาทำแบบนั้นจริงๆ
“ผมคิดว่าเขาดูผ่อนคลายเลยทีเดียว ถึงแม้ผมไม่ได้ต้องการให้เขาเสียความมุ่งมั่นไป แต่สิ่งที่ผมอยากบอกกับเขาคือ ให้ออกไปสนุกกับเกมกอล์ฟ ไม่ว่าท้ายที่สุดแล้วการแข่งขันจะเป็นยังไงก็ตาม แต่อย่าเข้าใจผมผิดไปนะ แค่ผ่อนคลายก็พอ”

ใครเป็นดูไลน์พัตต์ ไทเกอร์ หรือแคดดี้
นักกอล์ฟหลายคนเวลาพัตต์พลาด มักมีข้อแคลงใจถึงไลน์พัตต์ที่แคดดี้ให้ แต่สำหรับ ไทเกอร์ ถึงแม้เขาจะเคารพและเชื่อมือ ลาคาวา อย่างมาก ในทักษะการอ่านไลน์บนกรีน แต่ส่วนใหญ่แล้ว ไทเกอร์ เองจะเป็นคนอ่านไลน์ด้วยตัวเองเกือบทั้งหมด ยกเว้นแค่บางสถานการณ์ที่ต้องพัตต์มากกว่าหนึ่งไลน์ เขาจึงจะร้องขอให้ ลาคาวา ช่วยอ่านไลน์ด้วย
หนึ่งในมุกตลกของเรื่องการอ่านไลน์ของคู่นี้คือ ในการแข่งขันเดอะมาสเตอร์ส 2019 ที่หลุม 16 พาร์ 3 ไทเกอร์ ตีไปออนกรีนใกล้หลุมมากจนเกือบโฮลอินวัน พอไปถึงกรีนเขาเอ่ยปากขอให้ ลาคาวา ช่วยอ่านไลน์พัตต์ให้ว่า “นายลองดูให้หน่อยสิ”
แต่ ลาคาวา กลับเล่นมุกสวนกลับมาแทน “ดูอะไร? ก็ระยะฟุตครึ่งไง” ก่อนที่ ไทเกอร์ จะตอบกลับมาว่า “งั้น ซ้ายในนะ แล้วผมก็ตอบเขาว่า จัดเลย”

“ไทเกอร์” เคยโกรธแคดดี้ของเขาเองหรือไม่
แม้จะถูกมองว่าน่าจะเป็นมิสเตอร์เพอร์เฟ็กต์ ที่คนที่ร่วมงานกับเขาห้ามทำอะไรผิดพลาดเด็ดขาด แต่เมื่อถามว่า ไทเกอร์ เคยโกรธ หรือตำหนิแคดดี้ของเขาแรงๆ หรือไม่ เมื่อแนะนำเหล็กผิดเบอร์ หรือบอกข้อมูลอะไรผิด ลาคาวา ยืนยันว่า “ไม่เลยสักครั้ง”
“ไม่เคยเลย ผมสาบานเรื่องนี้ได้เลย เวลาที่ผมผิดพลาด เขาทำสิ่งที่ตรงข้ามกันเลย เช่น เวลาที่ ไทเกอร์ พัตต์ไม่ลง เขามักจะเดินกลับมาบอกว่า “เออ ผมพัตต์ตบไปเอง” หรือไม่ก็ “ผมพัตต์เปิดไปหน่อย” เรื่องนี้แม้แต่เวลาที่แคดดี้ของนักกอล์ฟคนอื่นๆ ได้เห็น ก็ยังรู้สึกประทับใจในตัวของ ไทเกอร์ มาก เขารับผิดชอบตัวเองในทุกสิ่งที่เขาทำเสมอ”

แคดดี้ที่พูดคุยกันได้แบบตรงๆ
ความสัมพันธ์ระหว่างนักกอล์ฟกับแคดดี้ บางครั้งก็ซับซ้อน แต่บางครั้งก็เรียบง่าย เพราะนี่คือการที่มืออาชีพสองคนมาทำงานร่วมกัน เหมือนกับที่ ลาคาวา เคยยืนยันกับ ไทเกอร์ ว่า สามารถร้องขอเขาตรงๆ ในสิ่งที่เขาต้องการได้
“ผมเคยพูดเปิดใจกับ ไทเกอร์ ว่า ผมใจกว้างพอนะ เขาสามารถบอกกับผมได้ว่า เขาต้องการอะไรจากผมมากกว่าที่เป็นอยู่ หรือน้อยกว่าที่เป็นอยู่ อะไรก็ตามที่ต้องการ เขาสามารถพูดตรงๆ กับผมได้เลย เพราะผมต้องการสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา และผมรู้ดีว่า ไทเกอร์ ไม่ใช่คนที่จะมาบ่นอะไรหรือตวาดใส่ใคร”
“แต่สิ่งที่เขาบอกผมกลับมาคือ “ตอนนี้เราเยี่ยมดีอยู่แล้ว””

เพราะนักกอล์ฟและแคดดี้คือ “ทีม” เดียวกัน
หนึ่งในโมเม้นท์สำคัญของ ไทเกอร์ กับ ลาคาวา คือ การคว้าแชมป์เดอะมาสเตอร์ส 2019 ซึ่งเป็นการคว้าแชมป์ร่วมกันจริงๆ แบบที่ ไทเกอร์ บอกกับแคดดี้ ลาคาวา ว่า…
“เราทำได้!” แทนที่จะเป็น “ฉันทำได้!”

นี่ล่ะครับตัวอย่างว่า ตัวอย่างของแคดดี้ที่เป็นมากกว่าแคดดี้…

**สั่งซื้อสินค้ากอล์ฟออนไลน์จากทุกแบรนด์ชั้นนำ ผ่าน HotGolf Shop สอบถามสินค้าได้ที่คลิก https://line.me/R/ti/p/%40hotgolf