“ฟรานเชสโก้ โมลินารี” ก้านเหล็กชาวอิตาลีโชว์ฟอร์มเล่นที่เล่นได้อย่างแน่นอน ก่อนเข้าป้ายคว้าแชมป์เมเจอร์ ดิ โอเพ่น 2018 เมื่อวันสุดท้ายไม่เสียโบกี้เลยแม้แต่หลุมเดียว ก่อนบวกสกอร์ได้อีก 2 อันเดอร์ เพิ่มสกอร์รวมเป็น 8 อันเดอร์พาร์ 276 ในการคว้าโทรฟี่ “คลาเรตจั๊ก” เป็นแชมป์เมเจอร์แรกในชีวิต
ผลการแข่งขันกอล์ฟเมเจอร์ “ดิ โอเพ่น 2018” ที่เป็นการแข่งขันครั้งที่ 147 ณ สนามคาร์นูสตี้ กอล์ฟลิงค์ ในประเทศสกอตแลนด์ ชิงเงินรางวัลรวม 10.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยผลสรุปแชมป์ตกเป็นของ ฟรานเชสโก้ โมลินารี นักกอล์ฟวัย 35 ปีชาวอิตาลี ที่ได้โอกาสสัมผัสแชมป์เมเจอร์แรกในชีวิต
วันสุดท้าย โมลินารี ออกรอบร่วมกับ ไทเกอร์ วูดส์ และมีสกอร์ตามหลังกลุ่มผู้นำอยู่ 3 สโตรก แต่ด้วยเกมการเล่นที่แน่นอนไม่พลาดเสียโบกี้เลยแม้แต่หลุมเดียว รวมถึงเก็บไป 2 เบอร์ดี้ จบที่สกอร์รวม 8 อันเดอร์พาร์ 276 ก็มากเกินพอสำหรับการคว้าแชมป์ไปครอง ทิ้งอันดับ 2 เควิน คิสเนอร์, รอรี่ แม็คอิลรอย, จัสติน โรส และ ซานเดอร์ ชอฟเฟล 2 สโตรก รับโทรฟี่ “คลาเรตจั๊ก” ไปครอง พร้อมเงินรางวัล 1.89 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือกว่า 63 ล้านบาท พร้อมขยับอันดับโลกขึ้นมาอยู่ที่ 6 ซึ่งสูงที่สุดในชีวิตการเล่นของเจ้าตัวอีกด้วย
ด้าน วูดส์ ใกล้เคียงที่สุดอีกครั้งกับการเพิ่มสถิติแชมป์เมเจอร์ให้กับตัวเอง เมื่อมีโอกาสฉีกขึ้นเป็นผู้นำในขณะที่คนอื่นๆ กำลังเล่นพลาด แต่สุดท้ายมาพลาดเสียดับเบิ้ลโบกี้ในหลุมที่ 11 กลายเป็นจุดเปลี่ยนทำให้สถิติของเขาต้องหยุดนิ่งต่อไป สรุปจบวันที่อีเวนพาร์ และจบการที่อันดับ 6 ร่วม ที่สกอร์รวม 5 อันเดอร์พาร์ 279 ร่วมกับ เควิน แชปเปลล์ และ เอ็ดดี้ เพ็พเพอร์เรล
ขณะที่ “โปรอาร์ม” กิรเดช อภิบาลรัตน์ หนึ่งเดียวจากไทยที่ผ่านการตัดตัว วันสุดท้ายตีเกินอีก 3 โอเวอร์ มีสกอร์รวมเพิ่มเป็น 9 โอเวอร์พาร์ 293 จบการแข่งขันที่อันดับ 75 ร่วม รับเงินรางวัลไปปลอบใจ 23,488 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณเกือบ 800,000 บาท