“เชน ลอว์รี่” คว้าแชมป์กอล์ฟเมเจอร์ ดิ โอเพ่น ครั้งที่ 148 ไปแบบไม่ต้องลุ้น เมื่อทิ้งอันดับ 2 ห่างถึง 6 สโตรก สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟไอริชคนที่ 5 ที่ได้สัมผัสโทรฟี่คลาเรตจั๊ก และเป็นแชมป์เมเจอร์แรกในชีวิตของ ลอว์รี่ อีกด้วย
ผลการแข่งขันกอล์ฟเมเจอร์รายการสุดท้ายของปี ดิ โอเพ่น 2019 ณ สนามกอล์ฟรอยัล พอทรัช ในประเทศไอร์แลนด์เหนือ ชิงเงินรางวัลรวม 10.75 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ผลแชมป์ตกเป็นของ เชน ลอว์รี่ นักกอล์ฟชาวไอร์แลนด์ หลังจากขึ้นนำมายาวต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 2
ลอว์รี่ วัย 32 ปี ที่ก่อนหน้านี้มีผลงานดีที่สุดในรายการเมเจอร์คือ การคว้ารองแชมป์ยูเอส โอเพ่น เมื่อปี 2016 ออกสตาร์ทวันสุดท้ายด้วยการนำอันดับ 2 ทอมมี่ ฟลีตวูด อยู่ที่ 4 สโตรก แม้การเล่นของเขาจะไม่ร้อนแรงเหมือนรอบ 3 ที่ทำสถิติสนามถึง 8 อันเดอร์พาร์ ประกอบกับเจอสภาพอากาศที่แย่กว่าวันเสาร์ ทำให้สุดท้ายตีเกินไป 1 โอเวอร์พาร์ แต่ยังมากเกินพอสำหรับการคว้าแชมป์ไปครอง เมื่อทิ้งอันดับ 2 ฟลีตวูด ไปถึง 6 สโตรก ได้ได้สัมผัสโทรฟี่คลาเรตจั๊ก พร้อมรับเงินรางวัลไป 1.935 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเกือบ 60 ล้านบาท
“เมื่อเช้านี้่ก่อนลงเล่นผมยังไม่มั่นใจในตัวเองอยู่เลยว่า ผมดีพอที่จะเป็นแชมป์รายการเมเจอร์ได้ไหม แต่ผมเชื่อว่าผมสามารถรักษามาตรฐานการเล่นของตัวเองได้ ผมสามารถที่เอาชนะสนามแห่งนี้ ผมคิดว่าแค่ต้องออกมาลงเล่นแล้วพยายามทำให้ดีที่สุด แล้วดูตอนนี้สิ ผมได้เป็นแชมป์เมเจอร์แล้ว” ลอว์รี่ กล่าว
ด้านหนึ่งเดียวของไทยที่ผ่านการตัดตัวคือ “โปรอาร์ม” กิรเดช อภิบาลรัตน์ วันสุดท้ายเร่งเครื่องทำ 4 อันเดอร์พาร์ มาจบที่สกอร์เกิน 1 โอเวอร์พาร์ 285 คว้าอันดับ 32 ร่วม รับเงินรางวัลไป 56,278 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 1.7 ล้านบาท