ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่วงการกอล์ฟไทยจะมีโอกาสได้ต้อนรับทัวร์นาเม้นต์รายการใหญ่ส่งท้ายปี 2018 นี้ กับการแข่งขัน “อมตะ เฟรนด์ชิพ คัพ 2018 พรีเซนเต็ด บาย โตโยต้า” ระหว่างวันที่ 21-23 ธันวาคม 2561 ที่สนามอมตะ สปริง คันทรี คลับ จังหวัดชลบุรี
ทัวร์นาเม้นต์ดังกล่าวยังเป็นการกลับมาเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกอล์ฟรายการใหญ่อีกครั้งของสนามอมตะ สปริง คันทรี คลับ หลังเคยเป็นสังเวียนของทั้งไทยแลนด์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ และเดอะ รอยัล โทรฟี่ ถือเป็นโอกาสดีที่หนึ่งในสนามกอล์ฟที่ดีที่สุดและมีเอกลักษณ์มากที่สุดของวงการกอล์ฟบ้านเราจะได้เปิดบ้านต้อนรับทั้งนักกอล์ฟและแฟนกอล์ฟอีกครั้ง
นอกจากทีมงาน HotGolf เรายังได้รับเชิญจากทางสนามให้เข้าไปเยี่ยมชมส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารภายในคลับเฮ้าส์ และสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนต่างๆ โดยเฉพาะตัวร้านอาหารที่การันตีคุณภาพด้วยการเปิดโอกาสให้ บริษัท ลูน่าเบียนก้า แตททอเรีย (ประเทศไทย) จำกัด ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดการร้านอาหารเข้ามาดูแลด้านนี้โดยตรง และมีให้เลือกถึง 2 ร้านที่มีสไตล์แตกต่างกันอย่าง Diciotto และ El Nino
ครั้งนี้เราจะมาแนะนำ Diciotto ที่เป็นร้านอาหารอิตาเลียนในแบบฉบับของต้นตำรับอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของบรรยากาศ และการดีไซน์ตกแต่งร้าน ตลอดจนเมนูอาหารก็เป็นอาหารอิตาเลียนแบบดั้งเดิม และที่สำคัญคือ การนำเข้าวัตถุดิบเครื่องปรุงต่างๆ ที่ส่งตรงมาจากประเทศอิตาลี รวมถึงตัวเชฟเองก็เป็นคนอิตาเลียนด้วยเช่นกัน แต่ถึงแม้
นอกจากนี้ยังพิเศษสุดๆ เมื่อเราได้รับการต้อนรับจากคุณ Flavio Bergamasco ผู้บริหารของร้านอาหารที่มาแนะนำเมนูเด่นให้กับ HotGolf ด้วยตัวเอง
สำหรับชื่อร้าน Diciotto คุณ Flavio เล่าให้เราฟังว่าเป็นชื่อที่มาจากภาษาอิตาเลียนที่หมายถึงเลข “18” นั่นก็เพราะวิวของร้านอาหาร Diciotto นั้นจะได้ภาพบรรยากาศหลุม 18 ของสนามเต็มๆ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหลุมสุดคลาสสิคที่หลายคนจดจำกันได้เป็นอย่างดี ขณะที่รสชาติอาหารของที่นี่จะเน้นรสชาติดั้งเดิมที่เป็นรสชาติแท้ๆ ของอาหารอิตาเลียน โดยพยายามให้มีความเป็นอิตาเลียนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มีการเลือกใช้วัตถุดิบสดใหม่วันต่อวัน ซึ่งคุณ Flavio ยืนยันเชื่อว่าทุกคนที่ได้ลองจะต้องชอบอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ก็พร้อมปรับรสชาติหวาน-เค็ม-เผ็ดตามความต้องการของคนทานได้ด้วยเช่นกัน
เมนูเด่นของทางร้าน คุณ Flavio แนะนำเริ่มต้นด้วยสตาร์ทเตอร์ ไล่ตั้งแต่ซุปเห็ดทรัฟเฟิลที่เนื้อเนียนเข้มข้นมาก หรือเมนูปาร์มาแฮม ทานคู่กับชีสมอสซาเรลลา มะเขือเทศ และมะกอก โดยใช้ชีสที่สดใหม่ และให้ความเข้มข้นของชีสสูง ทานคู่กับปาร์มาแฮมบ่มอายุ 36 เดือน ทำให้ได้รสชาติเข้มข้นของเนื้่ออย่างเต็มที่
ขณะที่จานหลักเริ่มด้วยสปาเกตตี้วองโกเล ต่อด้วยรีซอตโต้ พอร์ชินี่ หรือข้าวผัดสไตล์อิตาเลียน โดยผัดข้าวเข้ากับเห็ดพอร์ชินี่ คลุกเคล้าเข้ากับซอสเห็ดทรัฟเฟิล และผักขมเล็กน้อย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเมนูที่มีคนสั่งมากที่สุด และขายดีที่สุดของทางร้าน
หรือเมนูจานเดียวก็มีให้เลือกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นสเต็กเนื้อออสเตรเลียนวากิว หรือสเต็กปลาแบล็คคอด
แต่สิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้ และเป็นอะไรที่ทำให้พวกเราประทับใจกันอย่างมาก นั่นก็คือ ทุกโต๊ะของ Diciotto จะมี “น้ำมันพริก” ที่เป็นเครื่องปรุงพิเศษวางไว้ทุกโต๊ะ โดยเป็นน้ำมันพริกที่นำพริกสดมาต้มกับน้ำมันมะกอก และสมุนไพรอื่นๆ อย่างโรสแมรี่ ต้มแล้วเก็บไว้หนึ่งเดือน แล้วจึงนำมาทานคู่อาหารหลากหลายเมนู ช่วยเสริมรสชาติได้เป็นอย่างดี
นอกจากนั้นจุดเด่นของ Diciotto คือ ลิสต์ไวน์ที่คัดมาเฉพาะ โดยหลักๆ มาจากอิตาลี แต่ก็ยังมีจากประเทศอื่นๆ อาทิ ฝรั่งเศส, ชิลี หรืออาร์เจนตินา และจะมีการเปลี่ยนหมุนเวียนเมนูไวน์ทุก 4 เดือน ดังนั้นผู้ที่มาเยี่ยมเยือนจะได้ชิมรสชาติไวน์ใหม่ๆ อยู่เสมอ
ทั้งหมดนี้ทำให้ Diciotto เป็นหนึ่งในร้านอาหารอิตาเลียนที่โดดเด่นที่สุดของแถบนิคมอุตสาหกรรมอมตะเลยก็ว่าได้ ด้วยทั้งรสชาติอาหาร, การบริการ ตลอดจนบรรยากาศของร้าน และของสนามกอล์ฟ ที่พร้อมต้อนรับนักทานอาหารทุกท่าน ไม่ใช่แค่แต่เฉพาะนักกอล์ฟเท่านั้น
ครั้งต่อไปทีม HotGolf จะมาแนะนำอีกหนึ่งร้านในเครือเดียวกันของสนามอมตะ สปริง คันทรีคลับ รับรองว่ามีความน่าสนใจไม่แพ้ร้าน Diciotto อย่างแน่นอนครับ…