Site icon เว็บไซต์ HotGolfClub.com เว็บไซต์กีฬากอล์ฟอันดับหนึ่ง ในการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร ที่เป็นประโยชน์ต่อวงการกอล์ฟ และอยู่เคียงคู่กับนักกอล์ฟมายาวนานกว่า 20 ปี

“ประกันภัยกอล์ฟ” มีแล้วไม่ได้ใช้…ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มี?

เมื่อไม่นานมานี้ มีข่าวที่ถูกส่งตามช่องทางโซเชียลมีเดีย และทางไลน์ กรณีแคดดี้ถูกนักกอล์ฟตีลูกพลาดมาโดนบริเวณดวงตา ทำให้ได้รับบาดเจ็บ ถึงขั้นต้องเข้ารับการผ่าตัด และเสียค่ารักษาเป็นเงินนับแสนบาทเลยทีเดียว

กรณีดังกล่าวทางนักกอล์ฟที่เป็นผู้ที่ตีลูกกอล์ฟพลาด ได้มอบเงินช่วยค่ารักษาให้ทางแคดดี้ด้วยส่วนหนึ่ง รวมถึงก็มีนักกอล์ฟที่มีน้ำใจหลากหลายท่านร่วมกันบริจาคเงินช่วยเหลือแคดดี้อีกส่วนหนึ่ง

กรณีดังกล่าวเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า อุบัติเหตุนั้นสามารถเกิดได้ทุกเวลา และทุกสถานที่ แม้แต่ในสนามกอล์ฟที่หลายคนอาจจะมองว่าโอกาสเกิดขึ้นค่อนข้างน้อยก็ตาม

ถึงแม้อุบัติเหตุจะเป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดาและป้องกันได้ลำบาก แต่เราก็สามารถคุ้มครองถึงสิ่งที่จะตามมาได้ ด้วย “ประกันภัยกอล์ฟ” สิ่งที่นักกอล์ฟหลายคนอาจมองว่าไม่จำเป็น ทั้งที่เบี้ยประกันภัยนั้นถือว่าถูกมาก และช่วยคุ้มครองได้หลากหลายกรณี

ในเรื่องเด่น Cover Story ฉบับนี้ ทีมงาน HotGolf เราจะมาแนะนำข้อดีของการทำประกันภัยกอล์ฟ ที่เรายืนยันได้เลยว่า เป็นสิ่งที่มีติดตัวไว้ดีกว่า แม้จะไม่ได้ใช้ (ซึ่งเป็นเรื่องดี) แต่ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มีครับ!

ค่าเบี้ยประกันแสนถูก
ต้องยอมรับว่า บริษัทประกันบ้านเราจะไม่ค่อยโปรโมต หรือทำการตลาดเกี่ยวกับประกันภัยกอล์ฟมากเท่าไหร่นัก ส่งผลให้การแข่งขันไม่ค่อยสูง และค่าเบี้ยประกันจึงมีราคาถูกมาก รวมถึงราคาก็ใกล้เคียงกันแทบทุกบริษัท ไม่ว่าจะเป็นบริษัทใหญ่หรือเล็ก โดยราคาจะอยู่ที่ 900-1,100 บาทเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่จะคุ้มครองสูงถึง 500,000 บาท หรือถ้าต้องการจำนวนเงินการคุ้มครอง ก็สามารถเพิ่มค่าเบี้ยประกันไปได้ถึง 1,500 บาท สำหรับการคุ้มครองถึง 1,000,000 บาท ซึ่งค่าเบี้ยถือว่าถูกกว่าค่ากรีนฟีของสนามกอล์ฟบางสนามเสียอีก

เบี้ยประกันแทบไม่ขึ้นราคา
ในขณะที่เบี้ยประกันจะถูกแสนถูกแล้ว อีกหนึ่งจุดเด่นของการทำประกันภัยกอล์ฟคือ เบี้ยนั้นแทบจะไม่ปรับขึ้นราคาเลย ถึงแม้ผู้เอาประกันภัยจะมีการเคลมอยู่บ้างก็ตาม เนื่องด้วยความเสี่ยงนั้นมีโอกาสน้อยกว่าประกันภัยแบบอื่นๆ อาทิ ประกันภัยรถยนต์ เป็นต้น

คุ้มครองครบ 3 ปัจจัยหลัก
ประกันภัยกอล์ฟทุกเจ้าจะมีการคุ้มครองที่ครอบคลุมทั้ง 3 ปัจจัยหลัก และแทบไม่แตกต่างกัน ไล่ตั้งแต่ 1.คุ้มครองผู้เอาประกันภัย ที่จะคุ้มครองการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจากการเล่นกอล์ฟ ทั้งในสนามกอล์ฟ และในสนามซ้อม 2.คุ้มครองบุคคลภายนอก ที่จะคุ้มครองต่อผู้ที่้เสียหายจากการเล่นกอล์ฟของผู้เอาประกันภัย ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายต่อตัวร่างกายด้วยอาการบาดเจ็บ เช่น กรณีของแคดดี้ที่เรายกตัวอย่างมาข้างต้น รวมถึงคุ้มครองต่อทรัพย์สิน เช่น กรณีที่เราตีลูกกอล์ฟไปโดนกระจกบ้านในสนามแตก เป็นต้น
และอีกหนึ่งการคุ้มครองที่ประกันภัยกอล์ฟมีให้คือ 3.การคุ้มครองต่ออุปกรณ์กอล์ฟ โดยคุ้มครองทั้งกรณีเสียหาย เช่น ก้านหัก หรือกรณีสูญหาย เช่น ถูกขโมย เป็นต้น

รับเงินรางวัลเมื่อทำโฮลอินวัน
บางคนอาจจะมองว่าการทำประกันภัยกอล์ฟเป็นเรื่องที่เสียตังค์เปล่า ทางบริษัทประกันเกือบทุกบริษัทจึงมีโบนัสมาชักจูงใจ ด้วยการมอบเงินให้นักกอล์ฟผู้เอาประกันภัยถ้าหากสามารถทำ “โฮลอินวัน” ได้ แบ่งเป็นถ้าทำได้ในการแข่งขัน ก็จะรับเงินรางวัลอยู่ที่ประมาณ 15,000 บาท แต่ถ้าทำได้ในการเล่นกอล์ฟปกติ จะรับเงินอยู่ที่ 10,000 บาท โดยการขอรับรางวัลดังกล่าวนักกอล์ฟจะต้องมีใบยืนยันการทำโฮลอินวันจากทางสนามมารับรองด้วย

มีให้เลือกหลากหลายเจ้า
ถึงแม้ประกันภัยกอล์ฟจะมีไม่มีการทำการตลาด หรือการโฆษณาออกมามากนัก แต่บริษัทประกันเกือบทุกเจ้าก็ต่างประกันภัยกอล์ฟไว้ให้บริการ ไม่ว่าจะบริษัทใหญ่หรือเล็ก ทำให้นักกอล์ฟมีตัวเลือกที่หลากหลาย ขึ้นอยูกับว่าชอบบริษัทไหน หรืออาจเลือกจากประวัติของบริษัทประกันที่ขึ้นชื่อเรื่องขอเคลมง่าย เป็นต้น

ทั้งนี้ ข้อดีต่างๆ ที่ทีมงาน HotGolf หยิบยกมานำเสนอ ถือเป็นปัจจัยเบื้องต้นเท่านั้น แม้ประกันภัยกอล์ฟทั่วไปจะแตกต่างกันไม่มาก แต่นักกอล์ฟก็ควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขของก่อนตัดสินใจทำประกันภัยกอล์ฟแต่ละบริษัทอีกครั้ง แต่ที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นประกันภัยกอล์ฟจากบริษัทใด การมีประกันภัยติดตัวเอาไว้ ย่อมอุ่นใจกับการตีกอล์ฟครั้งต่อไปอย่างแน่นอน!