เมื่อระหว่างวันที่ 20-25 กันยายนที่ผ่านมา ทีมงาน HotGolf ได้รับเชิญจากบริษัท เจแปน นิวเวฟ ทราเวล ให้เดินทางมาสำรวจทริปตีกอล์ฟที่ญี่ปุ่น บริการใหม่ล่าสุดหลังจากที่บริษัทมีประสบการณ์การจัดทัวร์ญี่ปุ่นมาแล้วหลากหลายรูปแบบ ทั้งทัวร์ท่องเที่ยว หรือดูงาน คณะเล็ก หรือคณะใหญ่ กระทั่งล่าสุดคือ ทัวร์ตีกอล์ฟนั่นเอง
ในทริปครั้งนี้ทาง เจแปน นิวเวฟ ทราเวล จัดการให้เราได้ออกรอบสัมผัสประสบการณ์ตีกอล์ฟญี่ปุ่นกัน 2 สนามคือ Boso Country Club และ Ichinomiya Country Club ซึ่งตั้งอยู่ในเขตจังหวัดชิบะทั้งคู่ โดยเป็นสนามที่มีแคเรกเตอร์แตกต่างกัน แต่น่าเล่นทั้งสองสนาม ท่านผู้อ่านที่สนใจสามารถอ่านรีวิวสนามของเราได้จากหน้าคอลัมน์ Signature Hole ได้เลยครับ
สนามแรกที่เราไปออกรอบกันคือ Boso Country Club สนามมาตรฐานสูงระดับแชมเปี้ยนชิพคอร์สที่จะถูกใช้จัดแข่งกอล์ฟเมเจอร์ของเจแปนทัวร์ 2018 PGA Championship ในปีหน้านี้ ทำให้สภาพสนามค่อนข้างสมบูรณ์เนี้ยบมากในทุกจุด
และมารยาทในสนามกอล์ฟที่ก็ “เนี้ยบ” ด้วยเช่นกัน…
ในครั้งนี้เราจะมาบอกเล่าและแนะนำกันครับว่า การตีกอล์ฟที่ญี่ปุ่นนั้นมารยาทที่ผู้มาเยือนควรต้องปฏิบัติตามอย่างไรบ้าง โดยในทริปนี้มีโปรชาวญี่ปุ่น “โอตะซัง” มาแนะนำเราเกี่ยวกับมารยาทต่างๆ โดยเฉพาะ ดังนี้
ในคลับเฮ้าส์ห้ามใส่กางเกงยีนส์ และเสื้อต้องมีปก
ในขณะที่บ้านเรานักกอล์ฟจะแต่งตัวกันสบายๆ ไม่ว่าจะทั้งก่อนหรือหลังออกรอบ อาทิ กางเกงยีนส์ รวมถึงเสื้อยืดที่ใส่กันเป็นเรื่องปกติ แต่ทั้งสองอย่างนี้ถือเป็นข้อห้ามภายในคลับเฮ้าส์ของสนามกอล์ฟที่ญี่ปุ่น (รวมถึงบางสนามห้ามใส่ขาสั้น) โดยบังคับว่าจะต้องแต่งตัวสุภาพเท่านั้น รวมไปถึงรองเท้าครับ ต้องเป็นรองเท้าหุ้มข้อเท่านั้น
บางสนามไม่มีแคดดี้
กอล์ฟเมืองไทยขึ้นชื่อเรื่องแคดดี้ที่บริการเกือบทุกอย่างให้กับนักกอล์ฟ แต่ที่ญี่ปุ่นแคดดี้นั้นค่อนข้างหายาก นักกอล์ฟจะต้องพึ่งตัวเองเป็นหลัก ทั้งการเล็งระยะ หรือเล็งไลน์ รวมไปถึงการกลบไดวอท และการซ่อมกรีน ดังนั้นจึงมีหลายจุดที่นักกอล์ฟต้องการพึงระวังในกรณีที่ไม่มีแคดดี้มาคอยเตือน ยกตัวอย่าง การตีตามหลังก๊วนหน้า โดยในสนาม Boso Country Club จะมีจีพีเอสที่คอยบอกความห่างระยะรถกอล์ฟของก๊วนหน้า ทำให้เรารู้ว่าสามารถไดร์ฟได้แล้วหรือไม่ หรือสนาม Ichinomiya Country Club ก็จะมีจุดมาร์คบนแฟร์เวย์ให้นักกอล์ฟก๊วนหน้าผ่านจุดนี้ไปแล้วเท่านั้น จึงจะสามารถตีได้
บังคับหมุดขาว
นักกอล์ฟที่สามารถตีไกล หรือมือดีๆ อาจจะชอบเล่นหมุดน้ำเงินมากกว่าหมุดขาว เพราะท้าทายมากกว่า แต่ที่ญี่ปุ่นจะบังคับเล่นแค่หมุดขาวเท่านั้น แม้จะหมุดโปรไว้รองรับก็ตาม โดยการจะเล่นหมุดหลังจะต้องมีบัตรประจำตัวของผู้เล่นอาชีพ แล้วทำการยื่นเรื่องก่อนลงสนาม จึงจะได้รับอนุญาตให้เล่นหมุดหลังได้ ด้วยก็เพราะหากนักกอล์ฟเล่นหมุดที่เกินระดับฝีมือของตัวเอง ก็อาจส่งผลให้ก๊วนติดได้ด้วยเช่นกัน
หาลูกกอล์ฟได้แค่ 3 นาที
การตีกอล์ฟญี่ปุ่นจะค่อนข้างให้ความสำคัญกับการป้องกันการเล่นช้าเป็นพิเศษ และมีธรรมเนียมในการหาลูกกอล์ฟว่า ควรหาลูกไม่เกินภายในเวลา 3 นาที ถ้าหาไม่เจอ ก็ควรดร็อปทันที เพื่อไม่ให้เป็นการช้าจนส่งผลกระทบต่อก๊วนหลัง ทั้งนี้บางสนามอาทิ Boso Country Club ก็จะมีการบังคับรถกอล์ฟไปเลย รวมถึงในรถกอล์ฟก็จะมีวิทยุคอยเตือนจากคลับเฮ้าส์หากเล่นช้าเกินเวลา โดยจะมีการคอยมอนิเตอร์ก๊วนกอล์ฟจากคลับเฮ้าส์อยู่โดยตลอด
บังคับทานข้าวหลังเสร็จ 9 หลุม
นักกอล์ฟชาวไทยจะชอบตีกอล์ฟรวดเดียวจบ 18 หลุมแล้วค่อยอะไรทานทีเดียว หรือไม่ก็ทานกันก่อนลงสนามเลย แต่ที่ญี่ปุ่นจะแตกต่างกันออกไป เนื่องจากสนามจะบังคับให้นักกอล์ฟต้องพักทานข้าวหลังจากเล่นเสร็จ 9 หลุม ราว 45 นาที-1 ชั่วโมง แม้นักกอล์ฟจะทานข้าวหรือไม่ก็ตาม แต่ก็จะมีการกำหนดเวลาเอาไว้ว่า เมื่อไหร่ถึงจะกลับมาอีก 9 หลุมหลังได้
ในห้องอาหารต้องถอดหมวก
นอกจากนี้ที่ญี่ปุ่นจะบังคับทานข้าวแล้ว ก็มีอีกหนึ่งธรรมเนียมที่นักกอล์ฟควรรู้คือ ทุกคนควรต้องถอดหมวกเมื่อเข้ามายังห้องอาหาร โดยจะมีตู้หรือเสาไว้แขวนหมวกเตรียมไว้ให้โดยที่ไม่ต้องกลัวหาย เนื่องจากคนญี่ปุ่นนั้นขึ้นชื่ออยู่แล้วเรื่องความซื่อสัตย์
และทั้งหมดนี้มารยาทเบื้องต้นที่ควรรู้สำหรับนักกอล์ฟไทยที่กำลังมองหาโอกาสไปตีกอล์ฟที่ญี่ปุ่น ถ้าหากนักกอล์ฟท่านใดกำลังเล็งหาโอกาสอยู่ หรือต้องการคำปรึกษาจากผู้มีประสบการณ์ในการจัดทัวร์ญี่ปุ่นมาเป็นเวลากว่า 10 ปี สามารถสอบถามได้เลยที่ บริษัท เจแปน นิวเวฟ ทราเวล โทร.02-235-4720 แล้วคุณจะรู้ว่า ตีกอล์ฟญี่ปุ่นไม่แพงและไม่ยากอย่างที่คิด!