Site icon เว็บไซต์ HotGolfClub.com เว็บไซต์กีฬากอล์ฟอันดับหนึ่ง ในการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร ที่เป็นประโยชน์ต่อวงการกอล์ฟ และอยู่เคียงคู่กับนักกอล์ฟมายาวนานกว่า 20 ปี

ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่! กับเหล็กเทคโนโลยีสูงแห่งปี 2019

ถึงแม้ตอนนี้กำลังจะเข้าสู่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2019 แต่วงการอุปกรณ์กอล์ฟยังคงคึกคักกันต่อเนื่อง โดยเฉพาะไลน์ชุดเหล็กที่มีหลายแบรนด์ลอนช์รุ่นใหม่ออกมาส่งท้ายปี

ปัจจุบันใบเหล็กแม้จะเป็นใบเล็กๆ แต่ก็มีเทคโนโลยีที่สูงมากอัดแน่นอยู่ภายใน มีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่วิศวกรปรับแต่งและใส่เพิ่มเข้ามา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้เป็นเหล็กที่ดียิ่งขึ้น ครั้งนี้ HotGolf ไปสรุปไลน์ชุดเหล็กเทคโนโลยีสูงของปี 2019 เพื่อแสดงให้เห็นครับว่า เหล็กรุ่นใหม่ๆ นั้นทันสมัยกันขนาดไหน!!

Titleist T200 & T300
Titleist T200 และ T300 เป็นเหล็กรุ่นใหม่เอี่ยมของ Titleist ที่อยู่ในซีรี่ส์ T-Series เคียงข้างกันมากับ T100 อีกหนึ่งโมเดล แต่ T200 และ T300 มีจุดเด่นที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อให้นักกอล์ฟทุกระดับฝีมือสามารถเข้าถึงและใช้งานได้ง่ายขึ้น ด้วยการมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่เพิ่งนำมาใช้กับรุ่นนี้เป็นครั้งแรกด้วยเช่นกัน นั่นคือ เทคโนโลยี “Max Impact” อันเป็นนวัตกรรมที่ทีมวิจัยและพัฒนาไม้กอล์ฟและฝั่งลูกกอล์ฟพัฒนาขึ้นมาร่วมกัน โดยมีจุดเด่นหลายประการ ทั้งการรักษาประสิทธิภาพของหน้าเหล็กให้สร้างความเร็วได้สูงสุดจากทั่วทุกบริเวณ เอื้อให้ออกแบบหน้าเหล็กได้บางเฉียบ รวมถึง ช่วยในการชดเชยความผิดพลาด รวมถึงลดแรงสั่น และให้ฟีลลิ่งเสียงและฟีลลิ่งสัมผัสที่ยอดเยี่ยม เหมาะอย่างยิ่งกับทั้งสองโมเดล T200 และ T300 ที่เน้นตีไกล และชดเชยความผิดพลาดสูงเป็นหลัก

TaylorMade P790
TaylorMade P790 รุ่นปี 2019 เป็นเหล็กเจเนเรชั่นที่ 2 ต่อจาก P790 รุ่นแรก โดยยังคงคอนเซ็ปต์อัดแน่นด้วยเทคโนโลยี นำมาโดย SPEEDFOAM ที่ต่อยอดจากรุ่นแรก ด้วยการฉีดวัสดุโฟมยูรีเทนเข้าไปภายในใบเหล็ก เพื่อให้สร้างสปีดเข้าใกล้ขีดจำกัดได้สูงสุด นอกจากนี้ในรุ่นที่ 2 ยังมีการปรับแต่งและพัฒนาในหลายๆ จุด ไม่ว่าจะเป็นหน้าเหล็กที่เป็นฟอร์จ 4140 ที่ดีไซน์บางกว่าเดิม 7% และนำน้ำหนักที่ได้ไปเพิ่มในส่วนของตัวถ่วงทังสเตนให้มีน้ำหนักเพิ่ม 15% รวมถึงมีการรีดีไซน์รูปร่างของทังสเตนใหม่ แล้วนำไปวางในจุดที่ต่ำกว่าเดิม ให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำยิ่งขึ้น และช่วยให้ตีลูกลอยง่ายกว่าเดิม ขณะที่นอกจากภายในจะอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีแล้ว ภายนอกก็เช่นกันกับ Speed Pocket บริเวณฐานใบที่ช่วยสร้างความยืดหยุ่น เพิ่มบอลสปีด และชดเชยความผิดพลาดเมื่อตีโดนด้านล่างของหน้าเหล็กที่มักเกิดกับเหล็กยาวอีกด้วย เรียกว่าเทคโนโลยีรอบตัวสุดๆ สำหรับเหล็ก P790 จาก TaylorMade

Callaway Apex 19
ต่อกันที่เหล็กจากแบรนด์ Callaway ที่การันตีการเป็นเหล็กเทคโนโลยีสูง ด้วยการนำเทคโนโลยีเด่นจากหลากหลายรุ่นเข้ามารวมกันเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น โครงสร้างใบแบบหลายวัสดุที่นำมาประกอบกันอย่างแม่นยำ บอดี้เป็นเหล็กฟอร์จจากวัสดุ 1025 mild carbon ภายในมีการใส่วัสดุพิเศษอย่าง urethane microspheres ที่ใช้ครั้งแรกในเหล็กรุ่น Rogue โดยเป็นวัสดุยางที่มีอนุภาคฟองอากาศขนาดเล็กภายในนับล้านฟอง เพื่อเข้ามาช่วยลดแรงสั่น โดยไม่สร้างผลกระทบต่อการสร้างความเร็วของหน้าไม้ รวมถึงอีกหนึ่งจุดเด่นคือ กระบวนการฉีดทังสเตน (MIM’D Tungsten Weighing) เข้าไปภายในใบ เพื่อให้สามารถวางจุดศูนย์ถ่วงในเหล็กแต่ละเบอร์ได้อย่างแม่นยำสูงสุด เพื่อให้ได้มุมเหินและการคอนโทรลของเหล็กแต่ละเบอร์เป็นไปตามแคเรกเตอร์ที่ถูกออกแบบมามากที่สุด เรียกว่าสมกับเป็นเหล็กที่ออกมาทีหลังแล้วดังกว่าของจริงครับ

Cobra King F9 Speedback
ถ้าวัดกันที่รูปลักษณ์ เหล็ก Cobra King F9 “Speedback” มาในลุคที่ดูล้ำมาก นั่นก็เพราะเป็นดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรถแข่งนั่นเอง แต่ภายในก็ล้ำไม่แพ้กัน ถือเป็นเหล็กที่มีโครงสร้างและรายละเอียดปลีกย่อยค่อนข้างเยอะ ไล่ตั้งแต่ตัวบอดี้ส่วนของเหล็กที่ออกแบบให้กว้างและวางน้ำหนักไว้ด้านล่าง ทำให้จุด CG อยู่ต่ำ ตามคอนเซ็ปต์ชื่อรุ่นว่า Speedback ประกอบเข้ากับหน้าเหล็ก Forged E9 PWRSHELL ที่หนา-บางต่างจุด จุดบางสุดบางเพียง 1.8 มิลลิเมตร ทำให้สวีทสปอตกว้าง เสริมด้วยโครงสร้างหน้าเหล็กที่ยาวไปถึงด้านล่างและมีร่องด้วย ทำให้สปริงดีดตัวให้ได้มุมเห็นและความเร็วลูกสูงขึ้น ขณะเดียวกันก็เสริมคุณสมบัติการชดเชยความผิดพลาดด้วยวางทังสเตนไว้ถึงสองจุดเลยทีเดียว และตัว medallion ด้านหลังที่ก็มีถึง 3 วัสดุเข้าประกอบกัน ช่วยลดแรงสั่น ก่อนทิ้งท้ายด้วยกริพที่ติดเซ็นเซอร์ Cobra Connect ในการทำหน้าที่เก็บข้อมูลสถิติต่างๆ นำมาประมวลผลระยะที่เหล็กแต่ละเบอร์ตีได้ และให้คำแนะนำในการเลือกเหล็กจนเปรียบเหมือนกับเป็นแคดดี้เลยทีเดียว

Mizuno JPX919 Hot Metal
ตระกูล JPX919 นั้นโดดเด่นมากในช่วงปีที่ผ่านมา จากการเลือกใช้ของ บรูคส์ เคปก้า รวมถึง “โปรแจ๊ส” อติวิชญ เจนวัฒนานนท์ โดยในซีรี่ส์นั้นมีให้เลือกถึง 3 โมเดลคือ Tour, Forged และโมเดลที่เราหยิบมาแนะนำกันอย่าง Hot Metal ซึ่งตีง่ายที่สุด กลุ่มผู้ใช้งานกว้างที่สุด โดยจุดเด่นของ JPX919 นั่นคือการที่แต่ละโมเดลจะมีเทคโนโลยีเฉพาะ และเลือกใช้วัสดุที่แตกต่างกัน ใน Hot Metal นั้นเน้นคุณสมบัติการสร้างระยะทางอย่างเต็มที่ ทาง Mizuno จึงเลือกใช้วัสดุ Chromoly 4140M ความแข็งแกร่งสูงและยืดหยุ่น และโครงสร้างหน้าเหล็กแบบคัพเฟซ และมีความหนา-บางต่างจุด เพื่อให้ได้บอลสปีดที่สูง มุมเหินสูง และสวีทสปอตกว้างกว่าเดิมถึง 30% ด้านหลังใบมี Stability Frame เป็นเฟรมที่เปิดส่วนคอไม้เอาไว้ เพื่อให้ใบมีนิ่ง ตีผ่านง่าย และสม่ำเสมอ เสริมภายใน Sound Ribs ที่ปรับปรุงใหม่ ช่วยลดแรงสั่น ขณะที่ความต่างของ Hot Metal กับเหล็กทั่วไปในตลาดนั่นคือ การเป็นเหล็กแบบไร้รอยต่อ ให้รูปลักษณ์ที่สวยงาม แต่แฝงไว้ด้วยประสิทธิภาพสูงสุด

Honma TW747P
TW747P จาก Honma เป็นเหล็กที่มาในรูปลักษณ์แบบ Game Improvement แต่ก็ถูกเลือกใช้โดยนักกอล์ฟอาชีพหลายคน ด้วยการเป็นที่ทาง Honma ใส่เทคโนโลยีภายในมาแบบจัดเต็ม ภายในใส่ตัวถ่วงทังสเตนถึง 20 กรัม การันตีเข้าบอลที่ง่าย, แน่นอน และได้ไฟลท์บอลของลูกโด่ง เสริมด้วยการลดขนาดคอลง 4 มิลลิเมตร ทำให้จัดวางจุดศูนย์ถ่วงได้แม่นยำและต่ำขึ้น ขณะที่การออกแบบโพรงด้านหลังจะช่วยให้ใบดีดตัวสร้างระยะของลูกได้อย่างเต็มที่ เสริมด้วยวัสดุคาร์บอนที่ติดมาเพื่อให้ได้ทั้งเสียงและฟีลลิ่งที่ยอดเยี่ยม พร้อมการันตีงานผลิตที่เนี้ยบและคุณภาพสูง ด้วยการที่กระบวนการผลิตทั้งหมดจะแล้วเสร็จที่โรงงานในเมืองซากาตะ, ประเทศญี่ปุ่น ของ Honma เองเท่านั้น